ก่อนอื่นคงต้องขอให้ทุกคนลืมภาพจำเดิม ๆ ของร้านอาหารไทยผนังสีทองแต่งลายกนกไปก่อนได้เลย เพราะถ้าใครบังเอิญเดินผ่านเข้ามาในซอยฮิป ๆ อย่างศาลาแดง 1 ช่วงนี้ หลายคนคงคิดว่าต้องมีคาเฟ่กาแฟชิค ๆ มาเปิดใหม่อย่างแน่นอน แต่บอกเลยว่านี่ไม่ใช่ร้านกาแฟแต่อย่างใด แต่นี่คือร้านอาหารไทยเจเนอร์เรชันใหม่ที่มาพร้อมมู้ดสนุก ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเปิดดนตรีไทยคลอไปในร้านก็สามารถรับรู้ถึงความอร่อยของอาหารไทยได้แบบออริจินัล



เพื่อให้เข้ากับพื้นที่ในซ.ศาลาแดง 1 ที่มีตั้งแต่อาร์ตสเปซ บาร์ ไปจนถึงร้านอาหารชิค ๆ คูล ๆ เรียงรายอยู่ทั่วซอย Saladand Dining Hall เลยถูกออกแบบมาให้ผสมกลมกลืนไปกับตัวพื้นที่และอาณาบริเวณรอบ ๆ ที่เป็นตึกแถวเก่า โดยไม่ทำลายความเป็น Street Culture ของย่านนี้ โดยเลือกใช้โทนสีสว่างเพื่อสร้างความคลีนให้กับตัวร้าน หากมองเข้ามาจากด้านหน้าจะเห็นการเลือกใช้บานหน้าต่างแบบไทยโบราณที่ให้กลิ่นอายมินิมอล ด้านในเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยที่ฮิตมาก ๆ เมื่อสมัยก่อน ตกแต่งเคาน์เตอร์บาร์กลางร้านด้วยการปูกระเบื้องสไตล์คอนเทมฯ เข้าไป โดยรวมแล้วเราชอบมาก ๆ กับความมินิมอลที่แฝงกลิ่นอายไทย ๆ ไว้ ส่วนถ้าดูจากหน้าร้านอย่างเดียวแล้วจะบอกว่านี่เป็นคาเฟ่ในกรุงโซลก็เชื่อเหมือนกันนั่นแหละ!

มาถึงในส่วนของเมนูอาหารกันบ้าง ซึ่งจริง ๆ ก็ต้องบอกว่าไว้ในใจได้ในระดับ 10 คะแนนเต็มอยู่แล้ว ถ้าดูจากชื่อเจ้าของร้านอย่าง คุณนุ่ม-สินธุ์สิริ ติวุตานนท์ ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารและเครื่องดื่มในย่านนี้ ตั้งแต่ Bitterman, Happy Endings Eats & Bar ไปจนถึงร้าน The Meatchop Butcher & Spirits ซึ่งไม่ว่าร้านไหน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นร้านสร้างชื่อที่ชาวแก๊งศาลาแดงหลงรักกันหัวปักหัวปำทั้งนั้น


พอมาร้านนี้คุณนุ่มเลยผันตัวจากอาหารนานาชาติมาเป็นตำรับอาหารไทยที่ได้สูตรมาจากการทำกินเองในครอบครัวมาตั้งแต่รุ่นคุณย่าคุณยาย แต่ด้วยความเป็นคนเก๋ ๆ บวกกับเปิดร้านในย่านเก๋ ๆ แบบนี้ เมนูอาหารไทยของที่นี่เลยหน้าตาไม่ธรรมดาเหมือนอย่างที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นจานทานเล่นอย่าง Larb Tod (140) ลาบเนื้อทอดคลุกข้าวคั่วและสมุนไพรไทยกลิ่นหอม ๆ เหมาะมาก ๆ ถ้าจะสั่งมากินคู่กับเมนูแกงกะทิอย่าง Massaman Lamb (750 บาท) ที่ยกขาแกะน่องใหญ่ ๆ นำมาสโลว์คุ้กจนเปื่อยนุ่มเป็นแกงมัสมั่นรสชาติไทยแท้ ๆ ที่หลายคนจะต้องชอบแน่ ๆ

ส่วน Crying Tiger Rice Bowl (250 บาท) จานนี้ ก็เป็นเซตอาหารกลางวันสำหรับคนที่ไม่อยากเลือกเยอะ อินสไปร์มาจากเมนูอาหารไทยอีสานอย่างเสือร้องไห้ที่นำมาทำให้ชิคขึ้นด้วยเนื้อสเต็กอิมพอร์ตตรงจากออสเตรเลีย เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสชาติจัดจ้านที่สายเนื้อควรมาโดน แถมยังเสิร์ฟคู่กับมากับส้มคำไทยไซซ์เล็กกะทัดรัดให้อิ่มยาวไปจนถึงเย็นได้เลย

สำหรับใครที่อยากจัดหนัก ก็สามารถสั่ง Green Mango Soft Shell Crab (250 บาท) ปูนิ่มทอดกรอบ ๆ ราดยำมะม่วงเขียวรสเปรี้ยวจี๊ด กับ Kaeng Kua Sapparod (170 บาท) แกงคั่วสับปะรดที่ใส่หมูสันนอกติดมันชิ้นใหญ่ ๆ มาให้แบบไม่อั้น และจบด้วย Grilled Chicken (300-500 บาท) ไก่ย่างที่คัดเอามาเฉพาะไก่ Free Range จากโลคัลฟาร์มในประเทศมาใช้เท่านั้น บอกเลยว่าอิ่มพุงกางแบบแฮปปี้สุด ๆ


ส่วนใครที่อยากหาเครื่องดื่มจิบเบา ๆ เป็นการปิดท้ายวัน เราแนะนำให้ไว้ใจสั่งค็อกเทลร้านนี้มาลองได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่ ๆ เพราะแค่แก้วแรกนี้คือ Mrs. Som-O (260 บาท) ก็ถูกใจเรามากสุด ๆ แล้ว กับเบสวอดก้าที่ Infused เข้ากับพริกขี้หนูสด เพิ่มความหวานด้วยไซรัปส้มโอ ต่อด้วย Ruby Magic (260 บาท) ที่ใครชอบดื่มค็อกเทลสายครีมมี่จะต้องเลิฟแก้วนี้มาก ๆ กับเหล้าเบอร์เบินและ Campari ผสมไซรัปกระเจี๊ยบ ซึ่งบาร์เทนเดอร์ของเราบอกว่าควรสั่งมากินก่อนทานอาหารเพราะจะช่วยย่อยมื้อหนัก ๆ ของเราได้ดี

Soimilk Says: เราชอบความเป็นไทยที่ไม่จำเป็นต้องสื่อออกมาผ่านลายไทยบนผนังร้าน หรือจานชามลายสังคโลก แต่ก็ยังสามารถเก็บเอาดีเทลความเป็นไทยแท้ ๆ ลงไปในเมนูอาหารและเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดีผ่านรสชาติคุ้นปากที่เหมือนมีคุณยายมาทำให้กิน ส่วนค็อกเทลเองก็เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบและสมุนไพรไทย ไม่ว่าใครที่กำลังมองหาร้านอาหารไว้เติมพลังให้อิ่มท้องระหว่างวันหรือหลังเลิกงาน หรือแม้แต่ร้านนั่งชิลล์จิบดริงก์แบบไทย ๆ Saladang Dining Hall ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามด้วยประการทั้งปวง
Saladang Dining Hall ซ.ศาลาแดง 1 เวลาทำการ จันทร์-เสาร์ 11:00-23:00 น. (ปิดวันอาทิตย์) โทร. 095-907-9947 BTS ศาลาแดง MRT สีลม หรือ ลุมพินี fb.com/saladangdininghall