เพราะ 'ผงชูรส' คือแรงบันดาลใจ ประโยคสั้น ๆ ที่ คุณส้ม-ฐิติกาญจน์ จงวัฒนา เล่าให้เราฟังถึงเรื่องที่มาและแรงบันดาลใจของชื่อร้านแสนแปลกที่คนทั่วไปไม่น่าเอามาตั้งเป็นชื่อร้านอาหารสักเท่าไหร่นัก
'เราเป็นคนแพ้ผงชูรส แต่เรารู้ว่าผงชูรสคึอความอร่อยที่เรียกรสชาติจากต่อมน้ำลาย ซึ่งคนไทยชอบ เราเลยอยากทำอาหารที่ปรุงอร่อยเรียกน้ำตาลได้เหมือนใส่ผงชูรส แต่จริง ๆ ไม่ใส่เลยแม้แต่นิดเดียว' พี่ส้มบอกกับเราถึงไอเดียง่าย ๆ ที่แค่อยากกินอาหารรสจัดจ้านสไตล์ไทย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาผงชูรสที่เธอไม่ถูกจริตด้วย


จากแรงบันดาลใจง่าย ๆ กลายมาเป็นที่มาของประโยคฮิตที่ตกแต่งอยู่ทั่วร้าน บ้านหลังใหญ่ในบรรยากาศอบอุ่นสไตล์โฮมมี่ถูกแปลงร่างให้กลายเป็นร้านอาหารนั่งสบายชื่อ 'ผงชูรส' ซึ่งถ้าพูดจากมุมมองคนออฟฟิศย่านสาทรอย่างเรา โลเคชันร้านที่สามารถเดินทะลุจากปากทางซอยละลายทรัพย์ตรงบีทีเอสช่องนนทรี หรือจะเดินมาจากบีทีเอสสีลมก็ง่าย ถือเป็นทำเลทองที่เหมาะมาก ๆ กับปาร์ตี้ส้มตำยามบ่าย และจุดนัดเติมพลังกับชาวแก๊งหลังเลิกงาน
รสชาติเรียกน้ำลายที่ไม่ใส่ผงชูรส เริ่มจากการคัดเลือกวัตถุดิบพื้นบ้านตามสูตรตำราอาหารเฉพาะตัวของพี่ส้มที่มีดีกรีเป็นถึงหนึ่งในหุ้นส่วนร้านดังอย่าง Luka (ถ.ปั้น) อาทิ การเลือกใช้มะกอกแทนความหวานฝาดในส้มตำ หรือแม้กระทั่งการนำกะปิมาเคี่ยวน้ำตาลก่อนนำไปปรุงรสในข้าวผัดสูตรเด็ดประจำร้าน ก็ถือเป็นหนึ่งในหลายสิบเคล็ดลับที่ทำให้อาหารร้านนี้เขาอร่อยเด็ดแบบไม่ใส่ผงชูรสอย่างจริงจัง


เราเริ่มสั่งจากเมนูแซ่บซี้ดชวนน้ำลายสออย่าง ข้าวปุ้นซาวน้ำปลาแดกกากหมู (155 บาท) น้ำปลาร้าต้มสุกสูตรร้อยเอ็ดใส่กะปิ กระเทียมดอง เส้นขนมจีน และเพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยการใส่พริกแห้งแทนพริกป่น แค่จานแรกมาก็แอบกรี๊ดลั่นในใจเบา ๆ ต่อด้วย ข้าวผัดกะปิปลาทูสามเหม็น (175 บาท) ที่อัดเครื่องมาแน่นด้วย ๆ กากหมูเจียวหอมกรุบกรอบ ที่ชอบคือเขาเสิร์ฟพร้อมส้มจี๊ดแทนมะนาว เลยทำให้ความเปรี้ยวในจานนี้มาพร้อมความหวานอ่อน ๆ และกลิ่นอะโรมาแสนสดชื่อของส้มด้วย


พักความเผ็ดมาต่อกันที่สามจานสำหรับนักกินอาหารอีสานเลเวลเริ่มต้น กับไข่ข้นไข่แดงเค็ม (155 บาท) ตำอะโวคาโดไข่แดงดิบ (255 บาท) และจานที่โดนใจเรามาก ๆ อย่าง ยำไส้กรอกอีสานทอด (165 บาท) ที่ใช้เทคนิคการทอดไส้หมูด้านในจนกรอบ ยำคู่กับหอมแดง มะม่วงดิบ พริกสด และส้มจี๊ด เป็นอะไรที่เข้ากันจนอย่างสั่งเบิ้ลมาอีกหลาย ๆ จาน
ส่วนเมนูแปลก ๆ ที่เราอยากให้ทุกคนมาลองก็มีตั้งแต่ พะโล้เห็ดถอบไข่นกกระทา (255 บาท) จับแรร์ไอเทมพื้นบ้านจากภาคเหนืออย่างเห็ดถอบมาทำเป็นพะโล้ ใช้ไข่นกกระทาแทนไข่ไก่ จับคู่กับเมนูเผ็ดนัวอีกสองจานอย่าง ต้มแซ่บแห้งเอ็นตุ๋นเนื้อสามชั้นตุ๋น (295 บาท) และ ปลาร้าปลาหมึก (155 บาท) ที่เปรียบเทียบได้กับเมนูทาโกะวาซาบิของญี่ปุ่น แต่เปลี่ยนเป็นใช้ปลาหมึกมาดองในน้ำปลาร้าแทน

ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง อินทนิล (95 บาท) ขนมหวานสายกะทิจากภาคอีสานที่ใช้แป้งข้าวเหนียวมาปั้นเป็นก้อน มีความคล้ายขนมครองแครงผสมหยกมณี ใช้คลายความเผ็ดร้อนจากมื้อหนัก ๆ ของเราได้เป็นอย่างดี
Soimilk Says: สมมติว่าให้ชิมรสชาติแบบไม่มีบรีฟใด ๆ มาก่อน ความอร่อยนัวแบบขึ้นตาของอาหารอีสานในร้านนี้คงต้องถูกสงสัยจากเราแน่ ๆ ว่าเขาแอบใส่ผงชูรสลงไปรึเปล่า แต่เพราะความครบเครื่องพร้อมการใส่วัตถุดิบของดีมาแบบไม่ยั้งไม่กั๊ก ทำให้เราหมดความสงสัยไปเลยว่าทำไมถึงปรุงอาหารออกมาได้อร่อยขนาดนี้ ใครที่อยู่โซนสีลม-สาทร แล้วอยากมาลองลิ้มรสชาติจากแรงบันดาลใจน่ารัก ๆ อย่าง 'ผงชูรส' ก็สามารถแวะมาได้ตั้งแต่เที่ยงยันเย็น แอบกระซิบไว้นิดว่าควรจองที่นั่งกันล่วงหน้ามาก่อนนะ เพราะตอนนี้เป็นช่วง Soft Opening ที่คนจะเยอะมาก ๆ เลย!
ผงชูรส (Pongchuros) ซ.สีลม 3 หน้าโรงแรมเกศรา เวลาทำการ จันทร์-เสาร์ 12:00-21:00 น. (หยุดวันอาทิตย์) โทร. 082-504-1198 BTS ช่องนนทรี,สีลม fb.com/Pongchuros