Mott 32 Bangkok การมาถึงของร้านจีนร่วมสมัยชื่อดังจากฮ่องกงครั้งแรก สู่พิกัดใหญ่ยักษ์บน The Standard Bangkok

ขอกรี๊ดเป็นสำเนียงจีนกวางตุ้งตามถิ่นฐานบ้านเกิดของหนึ่งในร้านอาหารที่ฮอตฮิตที่สุด ณ วินาทีอย่าง Mott 32 Bangkok ที่ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ข้ามน้ำข้ามทะเลเอาสาขาแรกมาเปิดในเมืองไทยซะที หลังจากเหล่าอาตี๋อาหมวยไทยต้องแห่บินไปกินที่ฮ่องกงมานาน โดยการมาเยือนเมืองไทยครั้งแรกของร้านอาหารจีนร่วมสมัยที่ชื่นชอบการเอาความโมเดิร์นของโลกใหม่มารวมไว้กับเมนูอาหารจีนต้นตำรับยิ่งนักในครั้งนี้ ถือเป็นการดับเบิลความพีกไปพร้อม ๆ กับการเปิดตัวตึกโรงแรมไลฟ์สไตล์ที่โด่งดังที่สุดในกรุงเทพฯ อย่าง The Standard Bangkok ซึ่งเขาเลือกปักหมุดกันบนชั้น 2 ของโรงแรม และนาทีนี้ สิ่งการันตีความฮอตของ Mott 32 Bangkok ได้ดีที่สุด คือ คิวจองทานที่ร้าน ซึ่งยาวไปถึงเดือน ต.ค.โน่นแล้ว!

 

 

แน่นอนว่าพอมามัดรวมกับโรงแรมแสนฮิปเปิดใหม่อย่าง The Standard Bangkok ทั้งที การตกแต่งของ Mott 32 Bangkok เลยอลังการงานสร้างตามเรื่องตามราวสมมงคอนเซปต์ของโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดีไซเนอร์คู่บุญอย่าง จอยซ์ หวัง (Joyce Wang) มารับหน้าที่ดูแลพาร์ตอินทีเรียร์เหมือนอย่างในสาขาฮ่องกง แต่ก็ได้มือทองอีกมืออย่างทีม CAP Atelier จาก Mott 32 Seoul มาร่วมออกแบบภายในภายใต้กิมมิกบ้านตึกแถวไทยในสมัยก่อน เพื่อสะท้อนความเป็นพี่น้องแน่นแฟ้นของวัฒนธรรมไทย-จีน ที่มีมาตั้งแต่โบราณด้วยเก้าอี้จากยุคชิโนโปรตุกีส และภาพเขียนสไตล์ Chinoiserie ให้กลิ่นอายผสมผสานทั้งย้อนยุคเบา ๆ และเรียบขรึมในเวลาเดียวกัน เอาจริง ๆ ตอนเปิดลิฟต์ออกมา ก็รู้สึกเหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกเลยทีเดียว ถือเป็นอีกร้านที่ทำได้ฉีกฟีลกับล็อบบี้โรงแรมด้านล่างสุด ๆ 

 

 

 

ด้วยความคิวเต็มยาวไปถึงเกือบปลายปีโน่น สิ่งที่เราควรทำเมื่อจองคิวได้แล้ว คือการจองเมนูพิเศษที่มีจำกัดต่อวันอย่าง เป็ดปักกิ่ง (1,780 บาท) และ หมูย่าง (1,680 บาท) โดยเฉพาะเป็ดปักกิ่งที่มีเพียง 20 ตัวต่อวันเท่านั้น เพราะขั้นตอนการทำแสนยากเย็นของเมนูนี้ เริ่มจากนำเป็ดที่มีอายุเพียง 42 วัน มารมควันด้วยไม้แอปเปิลตามชื่อเมนู Apple Wood Roasted 42 Days Peking Duck "Signature Mott 32 Cut" โดยเชฟจะเข็นเป็ดทั้งตัวมาหั่นโชว์ที่หน้าโต๊ะ พร้อมแบ่งเป็ดออกเป็น 2 แบบ คือทานส่วนหนังเปล่า ๆ จิ้มคู่กับน้ำตาลทรายแดง และส่วนเนื้อที่เหลือเสิร์ฟมาแบบเป็ดปักกิ่งตำรับฮ่องกง พร้อมแป้งเปาะเปี๊ยะสำหรับห่อ ผักดอง และซอสสูตรลับ

 

ส่วนเมนูซิกเนเจอร์อีกตัวอย่าง Barbecue Pluma Iberico Pork, Yellow Mountain Honey (1,680 บาท) ก็ถือเป็นเมนูที่มาแล้วไม่สั่งไม่ได้ เพราะเชฟนำหมู Iberico สั่งตรงจากสเปน มาหมักกับน้ำผึ้งภูเขา เพื่อเท็กซเจอร์หอมนุ่มชุ่มหวาน ให้อาฟเตอร์เทสต์แบบสโมกกี้นิด ๆ จากการย่าง และกลิ่นอะโรม่าจากเครื่องเทศรสจัดจ้าน แต่กลมกล่อม

 

 

 

ไม่ใช่แค่เมนคอร์สเท่านั้นที่ถูกใจเหล่าทาสอาหารจีนจนหลายคนเคยถึงขั้นต้องบินไปฮ่องกงเพื่อร้านนี้มาแล้ว แต่กองทัพติ่มซำเองก็ถือเป็นเมนูไฮไลต์ที่มาแล้วต้องลอง เพราะเขาไม่ได้เสิร์ฟมาแค่แป้งห่อไส้หมูหรือกุ้งเท่านั้น แต่ยังซ่อนดีเทลไว้เยอะมาก ๆ อาทิ Hot & Sour Shanhainese Soup Dumpling (550 บาท / 4 ลูก) เสี่ยวหลงเปาที่น่าจะถูกใจคนไทยมาก ๆ เพราะเขาซ่อนเซอร์ไพรส์อย่างน้ำซุปรสเผ็ดไว้พร้อมแฝงคำใบ้เนียน ๆ (ว่ารสจัดนะจ๊ะ!) ด้วยแป้งห่อสีส้มเพลิง ซึ่งความเผ็ดของน้ำซุปนี้เป็นการตัดเลี่ยนเนื้อกุ้งและหอยเชลล์ด้านในได้เป็นอย่างดี รวมถึงเมนูเอาใจคนรักติ่มซำทอดอย่าง Whole Crispy Abalone, Salt & Pepper (1,380 บาท / 4 ลูก) ที่จัดเต็มด้วยหอยเป๋าฮื้อทั้งตัว เคลือบมาด้วยแป้งบางกรอบตามเทคนิคการทอดแบบจีน แค่จิ้มเกลือกับพริกไทยก็อร่อยตาแตกแล้ว!

 

 

แต่เมนูที่เราไม่อยากให้ทุกคนพลาดด้วยประการทั้งปวง ขอยกให้กับ Soft Quail Egg Siu Mai (160 บาท/ 2 ลูก) ขนมจีบไส้ไข่นกกระทาร้อน ๆ ที่เปลี่ยนโลกติ่มซำเราไปด้วยรสของทรัฟเฟิลดำที่แอบใส่มาไส้หมู ถือเป็นอีกหนึ่งความล้ำที่เหล่าทาสตื่มซำทั่วโลกควรได้ลิ้มลอง

 

 

 

ไม่ใช่แค่กองทัพอาหารจัดเต็มแบบไม่ต้องลงทุนบินไปกินที่ฮ่องกงเท่านั้น แต่ความพิเศษของ Mott 32 Bangkok คือการเป็นเพียง 1 ใน 3 สาขา จาก 32 สาขาทั่วโลก ที่มีบาร์เครื่องดื่มแยกโซนเป็นของตัวเอง ซึ่งจุด ๆ นี้เราสามารถกินติ่มซำพร้อมค็อกเทลซิกเนเจอร์ไม่ว่าจะเป็น White Tiger ที่นำวัตถุดิบไทยอย่างข้าวหอมมะลิ มาทำเป็นคอร์เดียล แล้วผสมเขากับมะม่วง ส้มยูซุ มะลิ และบรั่นดีใส หรือตัว Hanami ที่ใช้เบสเป็นเหล้าเบอร์เบิน จิน และอุเมะชู พร้อมชูความเป็นญี่ปุ่นนิด ๆ ด้วยใบชิโสะ

 

Soimilk Says: นี่คือการมาถึงของพี่ใหญ่แห่งวงการอาหารจีนที่ไม่ได้มีดีแค่ติ่มซำหรือเป็ดปักกิ่งเท่านั้น แต่ความหรูหราของ East meets West อันดับต้น ๆ ของโลกที่เลอค่าการรอคอยโดยแท้ เราชอบเมนูซิกเนเจอร์ที่ให้รสชาติสุดทางสายอาหารจีน แต่ก็ไม่ลืมที่จะเลือกใช้วัตถุดิบโลกใหม่จากทุกทวีปเพื่อยืนยันว่ารสชาติอาหารจีนนั้น worldwide แค่ไหน รวมถึงการออกแบบของสาขานี้ที่สมมงการเป็นหนึ่งในร้านอาหารดีไซน์สวยที่ทั่วโลกยอมรับอย่างแท้ทรู