ก่อนหน้านี้เราเคยเอาข่าวการเปิดตัวแบบ soft opening (มาก ๆ) ของ 111 Social House พิกัดแฮงก์เอาต์แห่งใหม่ประจำหัวหินมาบอกให้ชาว Soimilk ได้รู้จักกันพอกรุบ ๆ แต่ด้วยความที่เราทนไม่ไหวและอยากเห็นของจริงสุด ๆ วันหยุดยาวนี้เราเลยพุ่งตัวไปสำรวจบ้านเรือนไทยหลังงามสมัยรัชกาลที่ 6 หลังนี้มา เผื่อใครจะแวะไปหัวหินช่วงนี้ จะได้มีจุดปักหมุดกันได้แบบไม่ต้องคิดเยอะ!


บ้านเรือนไทยสไตล์โคโลเนียลที่ถูกก่อสร้างขึ้นมาในยุคเฟื่องฟูของสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์หลังนี้ ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมกับการสร้างพระราชนิเวศน์มฤคทายวันในสมัยรัชกาลที่ 6 และถึงแม้เวลาจะผ่านมาเป็นร้อยปี แต่เรือนไม้หลังนี้ยังคงสภาพสมบูรณ์และรายละเอียดดั้งเดิมไว้ครบทุกดีเทล จึงเป็นที่มาของการรีโนเวทเรือนไม้ริมทะเลหลังเล็กหลังนี้ ให้กลายเป็นพิกัดแฮงก์เอาต์ที่สร้างบรรยากาศย้อนวันวานกว่าร้อยปีของการเป็นคลับเฮาส์ในยุคนั้นขึ้นมาอีกครั้ง

สีขาวโพลนถูกเลือกมาใช้ทาทับสีไม้เดิมของตัวเรือนทั้งหลัง ไล่มาตั้งแต่เสา คาน ไปจนถึงหลังคา ทำให้เกิดเป็นภาพเรือนไม้สีขาวโพลนที่ตัดกันกับสีขอบฟ้า หาดทราย และน้ำทะเลเลียบชายฝั่งหัวหินที่อยู่ติดกันเพียงไม่กี่ก้าว ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มก็ถูกเลือกจับมาวางก็ยิ่งทำให้เรือนหลังนี้ดูเหมือนจะพาเราย้อนกลับไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อนได้จริง ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้ 111 Social House กลายมาเป็นพิกัดแฮงก์เอาต์ที่น่าปักหมุดมาที่สุด ต้องขอยกให้เหล่าเมนูอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ที่ช่วยเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวอย่างเราได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ สมกับคอนเซ็ปต์การแปลงโฉมที่นี่ให้กลายเป็น 'บ้านแห่งการเข้าสังคม' (Social House) ได้อย่างแท้จริง

เริ่มจากเซ็ตเมนูสำหรับคนรักการทานบรันช์ ที่มีให้เลือกตั้งแต่จานเฮลท์ตี้อย่าง Burrata (420 บาท) ที่ทำบูราต้าชีสก้อนใหญ่มาจับคู่กับมะเขือเทศราชินีจากฟาร์มออร์แกนิกที่เชียงใหม่ และซอสอะโวคาโดบด หรือใครอยากลองจานซิกเนเจอร์ที่อิ่มจุกไปเลยอย่าง Social Coffee Rubbed Grain-Fed Beef Ribeye (1,290 บาท) ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องมาก ๆ เพราะจานหลักจานนี้เป็นการนำเนื้อริบอายมาหมักด้วยผงกาแฟเบลนด์พิเศษของ 111 Social House ที่ใช้เมล็ดผสมระหว่างสายพันธุ์อาราบิก้าและโรบัสต้า ก่อนจะนำไปย่างแบบมีเดียมแรร์เพื่อเนื้อด้านในที่ฉ่ำ และเนื้อด้านนอกที่หอมกลิ่นกาแฟ


นอกจากเมนูบรันช์สุขภาพดีที่เสิร์ฟตลอดวันบนเรือนไม้หลังงามหลังนี้แล้ว ใครที่ชอบกินของหวานก็ห้ามพลาดเมนูฮิตอย่าง Lemon Curd & Meringue Tart (230 บาท) และเหล่าเบเกอรี่ อาทิ Rice Berry Croissant (90 บาท) และ Whole Grain Croissant (90 บาท) ที่อบสดใหม่ ๆ ทุกเช้า ซึ่งการันตีความอร่อยจาก Pastry Chef ประจำโรงแรมห้าดาวอย่าง Intercontinental Hotel Hua Hin เลยทีเดียว


พอพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เหล่าบาร์ฮอปเปอร์ทั้งหลายก็สามารถเดินลงไปนั่งโซนสวนริมชายหาดที่มีทั้งเบาะบีนส์แบ็ก รวมถึงเซ็ตโต๊ะเก้าอี้สุดชิลล์ให้เลือกนั่งกันได้ตามอัธยาศัย ใครที่มาเป็นแก๊งใหญ่ก็สามารถขอใช้พื้นที่ส่วนตัวในศาลาริมหาดได้เลย ซึ่งจุด ๆ นี้ก็อย่าลืมสั่งเมนูดินเนอร์ที่ไล่มาตั้งแต่ Marinated Baby Chicken (420 บาท) Local Sea Bass Ceviche (330 บาท) ไปจนถึงเมนูสุดพรีเมียมอย่าง Phuket Lobster (300 บาท) ที่จะอัปเกรดให้มื้อค่ำของเหล่าบาร์ฮอปเปอร์ดูหรูหราขึ้นเป็นพิเศษ รวมถึงสามารถจับคู่แพร์ริ่งกับค็อกเทลและม็อกเทลได้เลยรัว ๆ จนถึงดึกดื่นค่ำมืดก็ยังสามารถนั่งชิลล์ได้เลยยาว ๆ
Soimilk Says: ถือเป็นอีกหนึ่งพิกัดเปิดใหม่ที่ไม่ว่าจะเป็นสายคาเฟ่ฮอปเปอร์ ไปจนถึงบาร์ฮอปเปอร์ ก็สามารถแวะมาเยี่ยมเยือนได้ตลอดวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ สมมงคอนเซ็ปต์การเป็นบ้านแห่งการเข้าสังคมอย่างแท้จริง ขอบวกคะแนนให้ความพรีเมียมของวัตถุดิบที่การันตีโดยโรงแรม Intercontinental Hotel Hua Hin และความสวยงามสมมงของเรือนไทยอายุเป็นร้อยปี ที่ถ้ามาหัวหินแล้วไม่แวะมาคือพลาดมาก ๆ!
111 Social House ซ.71 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เวลาทำการ ทุกวัน 8:00 - 22:00 น. 111socialhouse.com