Skip to main content

Pridi จับบ้านเก่ายุคมิดเซ็นจูรี่ในซอยปรีดีฯ มาแชร์พื้นที่สำหรับโฮมคาเฟ่และโรงคั่วกาแฟ

อยากไปทุกวัน!

Pridi จับบ้านเก่ายุคมิดเซ็นจูรี่ในซอยปรีดีฯ มาแชร์พื้นที่สำหรับโฮมคาเฟ่และโรงคั่วกาแฟ
March 18, 2022 Bangkok time

เปลี่ยนบ้านทั้งหลังให้เป็นแชร์สเปซ

 
 
เราชอบไอเดียของการแบ่งปันพื้นที่ร่วมกันแทนที่จะเก็บบ้านหลังใหญ่ไว้แค่อยู่อาศัย หรือเพียงเอามาทำเป็นคาเฟ่ชิค ๆ เท่านั้น แต่ทีม PRIDI เลือกที่จะแบ่งสันปันส่วนบ้านเก่ายุคมิดเซนจูรี่หลังใหญ่หลังนี้ในซ.ปรีดีพนมยงค์ 25 ให้เกิดประโยชน์ด้านการใช้สอยและด้านธุรกิจอย่างสูงสุด แบบเน้นพึ่งพาอาศัยกันระหว่างผู้ใช้พื้นที่ในแต่ละส่วนอย่างเรียบง่าย ถ่อมตัว และเป็นมิตรต่อใจของทุกคนที่มาเยือน
 
 
 
สิ่งที่แรกที่คนที่แวะไปบ้าน PRIDI จะต้องเห็น คือพื้นที่ของห้องด้านหน้าที่ถูกแยกส่วนออกมาสำหรับวางเครื่องคั่วกาแฟขนาดใหญ่หลายเครื่องเอาไว้ ซึ่งพื้นที่ในส่วนนี้ถูกทำให้เป็นคล้ายกับ co-working space ที่เหล่านักคั่วกาแฟหลาย ๆ คน อาทิ Sauce Coffee, Hands & Heart Coffee Roasters และ Livid Coffee Roasters ต่างมาใช้ห้องคั่วกาแฟไซซ์เล็กกะทัดรัดนี้ร่วมกัน รวมถึงคั่วกาแฟส่งให้กับคาเฟ่ประจำบ้าน PRIDI ที่ด้านหลังด้วย
 
พื้นที่ในห้องโถงหลักของบ้านถูกใช้เป็นจุดปักหมุดของตัวคาเฟ่ในชื่อเดียวกับตัวบ้าน ซึ่งถูกรีโนเวตภายในใหม่ให้ดูโปร่งและสะอาดตา เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เก่ายุค 50s 60s เพื่อคงกลิ่นอายแบบยุคมิดเซ็นจูรี่ที่เป็นยุคเดียวกับตัวสถาปัตยกรรมของอาคารหลังนี้ มีไฮไลต์เป็นเคาน์เตอร์บาร์ยาวสำหรับพื้นที่ทำงานของเหล่าบาริสต้า แม่ครัว นักอบขนม และที่นั่งสำหรับลูกค้าที่อยากสนทนากับพนักงาน
 

เครื่องดื่มและอาหารสำหรับทุกวันของชีวิต

 
 
Classic Coffee คือสิ่งที่คาเฟ่แห่งนี้อยากนำเสนอ ด้วยความที่คั่วกาแฟเอง (แถมดีกรีคนคั่วเป็นผู้ชนะจาก Thailand National Brewer Cup Championship 2019) เขาเลยอยากให้นักดื่มได้สัมผัสรสชาติของกาแฟแต่ละโปรไฟล์ในแบบออริจินอลและเรียบง่ายที่สุด โดยมีทั้งเมนูจากฝั่งเอสเพรสโซ่บาร์แบบที่เราเลือกดื่มในวันนี้อย่าง Espresso Tonic (220 บาท) ที่ใช้เมล็ดกาแฟแบบ Single Origin เท่านั้น และจะเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาของปี อย่างช่วงนี้ก็จะเป็นเมล็ดเอธิโอเปียที่ให้โทนฟรุตตี้ เหมาะกับโทนิคเปรี้ยวซ่าได้เป็นอย่างดี หรือใครจะเลือกลองเมล็ดกัวเตมาลาที่ออกโทนนัตตี้ก็ได้เหมือนกัน
 
 
ส่วนพาร์ตสโลว์บาร์ก็มีโปรไฟล์เมล็ดให้เลือกชิมตั้งแต่ Asegedech Sholi, Konga (180 บาท) Karimikul, Kirinyaga, Kenya (180 บาท) ไปจนถึงเมล็ดโหด ๆ อย่าง Roger Urena, Tarrazu (250 บาท) ที่ถือเป็นหนึ่งในโปรดิวเซอร์กาแฟรายใหญ่ที่สุดในคอสตาริก้า ไปจนถึงซีเลกชันปราบเซียนอย่างเมล็ด Geisha จาก Carlos Montero, Tarrazu (350 บาท) ก็มีให้ได้ลองชิมในช่วงนี้เช่นกัน
 
 
 
ส่วนอาหารที่ถือเป็นหัวใจหลักที่ทำให้สเปซแห่งนี้ต่างจากร้านกาแฟก่อนหน้านี้ของทีมบาริสต้าและหุ้นส่วนคนอื่น ๆ ของร้าน คือการได้อดีตเชฟจากร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งมาร่วมงานและแชร์พื้นที่ธุรกิจนี้ด้วยกัน โดยเน้นไปที่เมนูอาหารสไตล์นอร์ดิกสแกนดิเนเวียนที่หน้าตาดูเรียบง่ายไม่หวือหวา อาทิ Endive & Preserved Nutmeg (245 บาท) สลัดผักอองดิฟที่นิยมทานทั้งก้าน ราดด้วยเดรสซิ่งซอสที่หมักขึ้นมาจากลูกจันทน์เทศ ให้กลิ่นหอมสมุนไพรเบา ๆ และตัดรสด้วยมอสซาเรลลาชีสและแฮมแผ่น กับอีกตัวที่ใครมาที่นี่ก็ต้องสั่งอย่าง Chicken Liver Pate (165 บาท) ซึ่งเราจะได้ลองชิมขนมปังซาวร์โดโฮมเมดทำจากอาร์ติซานยีสต์ที่เลี้ยงเอง ปาดด้วยตับไก่บดที่เลือกใช้ไก่ free range แบบปลอดสาร พร้อมสตรอว์เบอร์รีแยม และครีมชีสหมักเอง
 
Soimilk Says: เราชอบที่ทุกอย่างของที่นี่คิดมาดีมาก ๆ (และน่าจะใช้เวลาคิดมาเยอะมาก ๆ) ผ่านประสบการณ์การทำงานในวงการกาแฟและอาหารของเหล่าทีมเจ้าของร้านทุกคน ซึ่งถูกนำมาต่อยอด ทดลองทำ และตัดทอนอีกหลายครั้งจนเกิดเป็นเมนูและหน้าตาร้านที่เรียบง่ายและย่อยง่ายที่สุด เพื่อให้ออกมาเป็นกาแฟและอาหารในทุกวันของทุกคน และเลือกใช้วัตถุดิบที่ทำเองให้ได้มากที่สุด บวกรวมกับบรรยากาศสุดเฟรนด์ลี่ และสถาปัตยกรรมที่เคยเป็นบ้านอยู่อาศัยจริง ๆ พื้นที่แห่งนี้เลยมีความอบอุ่นและโฮมมี่ขั้นสุด แบบที่ใครจะมานั่งทำงาน นัดแฮงก์เอาต์กับเพื่อน ทานบรันช์ อ่านหนังสือ หรือแค่แวะมาจิบกาแฟก่อนไปที่อื่นต่อก็ดูเหมาะเจาะไปซะหมด ไม่มีอะไรจะหักคะแนนความชิลล์และคุณภาพของสเปซแห่งนี้ได้เลย!  
 
PRIDI ซ.ปรีดีพนมยงค์ 25 เวลาทำการ ศุกร์ - พุธ 8:30 - 17:30 น. (ปิดวันพฤหัสบดี) โทร. 065-098-8974 IG @pridi.bkk BTS พระโขนง