สำหรับใครหลาย ๆ คน (รวมถึงเราด้วย) สิ่งที่ทำให้เราหลงใหลเจ้าเครื่องดื่มสีเข้มที่เรียกว่ากาแฟจนตกเป็นทาสรักคาเฟอีนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ไม่ได้อยู่ที่กาแฟอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงประสบการณ์การดื่มกาแฟ ที่เราได้ซึมซับโมเมนต์ละเมียดกาแฟดี ๆ สักแก้ว
ด้วยเหตุนี้ พอเราได้ยินว่ามีพื้นที่จิบกาแฟแห่งใหม่ผุดขึ้นมาในกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้ใส่ใจแค่ในเรื่องคุณภาพและรสชาติของกาแฟอย่างเดียว แต่ยังตั้งใจคัดสรรประสบการณ์การดื่มกาแฟดี ๆ ผ่านพื้นที่ บรรยากาศ ไปจนถึงการคิวเรตเมนูน่าตื่นตาตื่นใจ เราจึงไม่พลาดที่จะไปเก็บบรรยากาศมาฝากชาวซอยมิลค์สายคาเฟอีนเลิฟเวอร์คอเดียวกันกับเรา
Dash.space คือพื้นที่จิบกาแฟสีขาวที่ตั้งโดดเด่นอยู่ในละแวกบ้านเรือนของย่านบางเขน บริเวณร้านกว้างขวางจนแค่ก้าวเข้ามาในพื้นที่ของร้าน เราก็รู้สึกเหมือนก้าวเข้ามาในพื้นที่พิเศษที่ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็เป็นความตั้งใจของทางร้านที่จะสร้างพื้นที่แห่งความเรียบง่าย ที่ชวนคนเมืองหลบหนีจากความวุ่นวายเข้ามานั่งพักปล่อยใจ และใช้เวลาอย่างเรียบเรื่อยแต่แสนพิเศษกับตัวเอง
พื้นที่ทั้งหมดในร้านทั้งภายนอกและภายใน อยู่ภายใต้คอนเซปต์ของความมินิมอลร่วมสมัย แต่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อัดแน่นแทรกตัวอยู่ในพื้นที่ของร้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบพื้นเล่นระดับที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับพื้นที่ภายนอก การซ่อนพื้นที่บังตาที่เพิ่มความเซอร์ไพรส์และชวนให้เราออกไปเดินเล่นสำรวจ ไปจนถึงการออกแบบพื้นที่ภายใน ที่ให้ความสำคัญกับแสงธรรมชาติด้วยการติดกระจกล้อมรอบ เพดานสูงที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย และการตกแต่งด้วยสีขาวสบายตาที่ทำให้เรารู้สึกอยากนั่งปล่อยใจกับกาแฟแก้วโปรด
ส่วนเมนูเครื่องดื่มที่นี่ แน่นอนว่าทางร้านเน้นใส่ใจคุณภาพของกาแฟแบบที่คนรักกาแฟเดินเข้ามาแล้วต้องไม่ผิดหวัง แต่ในขณะเดียวกันก็อยากชวนคนที่ไม่ดื่มกาแฟมาลองเปิดใจ ทางร้านจึงมีทั้งเมนูกาแฟจริงจังแบบสโลว์ดริป ไปจนถึงเมนูกาแฟเพิ่มลูกเล่นให้เข้าถึงง่าย แถมจิบง่ายไม่บาดคอ
สำหรับสายกาแฟตัวจริง เราอยากให้ลอง On The Rock (250 บาท) เมนูพิเศษที่เสิร์ฟเพียงแค่ 30 ที่ต่อวัน ความพิเศษอยู่ที่กระบวนการการบริวและดริปที่ใช้เวลาถึง 6 ชม. เพื่อให้ได้กาแฟที่มีความใส ตัดรสขมออกไปจนหมด เหลือแต่รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดื่มวิสกี้ที่ให้ความสดชื่น จิบไปแล้วก็แอบคิดว่าคนไม่ชอบรสขมของกาแฟก็อาจจะจอยกับแก้วนี้ได้เหมือนกันนะ
ถ้าอยากได้ความสดชื่นในวันอันร้อนระอุ และอยากนั่งพักใจแบบช้า ๆ เนิบ ๆ เราแนะนำให้สั่ง Hour Glass (200 บาท) เมนูกาแฟที่เพิ่มลูกเล่นด้วยการเสิร์ฟช็อตกาแฟแยกชั้นกับน้ำเกรปฟรุตและโซดา เห็นแล้วนึกถึงนาฬิกาทรายตามชื่อเมนู แก้วนี้จะคนให้เข้ากันแล้วดื่ม หรือจะค่อย ๆ จิบช้า ๆ รอให้ทั้งสองชั้นผสมกันก็ได้
สำหรับสายน็อนคาเฟอีน ทางร้านก็มีเมนูอื่นนอกจากกาแฟให้เลือกสั่งกันด้วย แอบกระซิบว่าเมนูน็อนคาเฟอีนของเขาก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้เมนูกาแฟเลย ไม่ว่าจะเป็น Sour Passion (100 บาท) ที่เขานำเสาวรสมาบ่มกับสับปะรด จนได้เครื่องดื่มสไตล์ทรอปิคอลเปรี้ยวอมหวานแสนชื่นใจ ไปจนถึง Unbeer (180 บาท) เมนูชาข้าวคั่วผสมยูซุรสหวานหอมที่เสิร์ฟมาในรูปแบบของเบียร์ แต่ดื่มได้เรื่อย ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจ่าจะจับ
สุดท้ายแล้วถ้ายังไม่หายร้อนกายร้อนใจ ทางร้านยังมีเมนูของหวานดับร้อนอย่าง Ispaphan Soup (180 บาท) ที่จับเอาผลไม้รสเปรี้ยวจี๊ดใจอย่างลิ้นจี่และราสป์เบอร์รีมาเจอกันในน้ำกลิ่นกุหลาบหอมชื่นใจ เป็นเมนูดับร้อนที่ทำให้หน้าร้อนน่ารักสำหรับเราขึ้นมาทันที
Soimilk Says: ถือเป็นอีกหนึ่งพิกัดต้องปักหมุดสำหรับคนรักกาแฟที่หลงใหลในการดื่มด่ำบรรยากาศของการจิบกาแฟด้วย อย่างไรก็ตาม เราชอบที่ทางร้านยังใส่ใจไปถึงคนไม่กินกาแฟ ด้วยการคัดสรรเมนูน็อนคาเฟอีนที่มีลูกเล่นน่าตื่นตาตื่นใจ แถมยังมีเมนูกาแฟดื่มง่ายที่เผื่อให้คนไม่ชอบกาแฟได้ลองเปิดใจอีก ถือว่าเป็นพิกัดที่นัดกันไปได้ทั้งแก๊ง ไม่ต้องกลัวเพื่อนคนไหนจะงอแง เพราะมีเมนูตอบโจทย์ให้ทุกคน
Dash.space เวลาทำการ อังคาร - อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) 10:00 - 17:00 น. ซ.รามอินทรา 19 แยก 6 อนุสาวรีย์บางเขน ด้วยความที่ทางร้านอยากให้ทุกคนได้มาดื่มด่ำกับบรรยากาศและใช้เวลาในพื้นที่แบบสบาย ๆ ไม่แออัด จึงต้องทำการจองผ่าน d-dd.co/dash.space สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม fb.com/dashspace.cafe หรือโทร. 091-549-6664
