งานนี้พูดได้คำเดียวว่าซีนแก่งแย่งต่อแถวเข้าร้านต้องมาหน่อยแล้วแหละ เพราะไม่ใช่แค่เหล่าคาเฟ่ฮ็อปเปอร์เท่านั้น ที่จ่อรอคิวจะไปบุกรังจิ้งจอก Cafe Kitsune อันโด่งดังมาจากญี่ปุ่น เกาหลี และฝรั่งเศส ซึ่งล่าสุดมาเปิดสาขาในไทยเป็นครั้งแรก (ที่รอมาเนิ่นนาน) แล้ว ด้วยความเจ้าคาเฟ่จิ้งจอกนี้เป็นแบรนด์ลูกที่แตกไลน์ออกมาจากแบรนด์แฟชั่นตลาดบนอย่าง Maison Kitsune นอกจากเหล่าคาเฟ่ฮ็อปเปอร์ที่มีล้นประเทศ เราเลยต้องต่อสู้กับเหล่าแฟชันนิสต้าที่รอคอยจะได้ลิ้มลองเมนูของที่นี่ด้วยค่ะคุณผู้โช้มมม


ดังนั้นถ้ารู้แบบนี้แล้ว ใครพุ่งตัวไปได้ก่อนตั้งแต่เช้าเลยก็ยิ่งดี เอาแบบที่ห้าง EmQuartier เปิดปุ๊บ ก็พุ่งตัวเข้าไปปั๊บ แบบนั้นรับรองได้สั่งทั้งเครื่องดื่มพิเศษและขนมหวานมาชิมแบบไม่ต้องรอลุ้นว่าเมนูไหนจะหมด แถมยังได้ถ่ายรูปกับมุมสวย ๆ แบบไม่ต้องแย่งที่กับใครอีกต่างหาก

ใครอยากลองเมนูพิเศษของโซนคาเฟ่ เราขอให้เริ่มจากเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่มีเฉพาะในสาขาที่ไทยเท่านั้น อย่าง Uji Fizz (160 บาท) ชาเขียวแบบสปาร์กลิงที่มีความพิเศษตรงที่การเลือกใช้ผงมัทฉะจากฟาร์ม Kono ในเมืองอูจิ ซึ่งเป็นเกรดพรีเมียมระดับที่ชาวญี่ปุ่นมักนำไปใช้ในพิธีชงชาเลยทีเดียว ต่อด้วยเครื่องดื่มสายน็อนคาเฟอีนอย่าง La Fleur (160 บาท) แก้วที่บ่งบอกความเป็นแบรนด์ลูกครึ่งญี่ปุ่น-ฝรั่งเศสที่มีที่มาจากเจ้าของแบรนด์ทั้งสองคนอย่าง Masaya Kuroki และ Gildas Loaec ได้ลงตัวมาก ๆ ด้วยการเลือกใช้ความเปรี้ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากส้มยูซุ ตัดด้วยความหอมหวานจากวานิลลาและดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์

ส่วนไฮไลต์ทีเด็ดที่ใครไม่ได้ลอง เราจะถือว่ามาไม่ถึง เพราะนี่คือ Fox Latte (170 บาท) กาแฟนมคาแรกเตอร์จัดจ้าน ที่ไม่ได้พิเศษแค่ตรงการคัดสรรเมล็ดกาแฟมาจากแหล่งปลูกชั้นดีอย่าง เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา และนิการากัวเท่านั้น แต่เมล็ดกาแฟที่นี่ล้วนผ่านการคั่วมาจากโรงคั่วเดียวของแบรนด์ Cafe Kitsune ที่โอกายาม่าเท่านั้น ทำให้เมล็ดเบลนด์พิเศษของที่นี่มีมาตรฐานเหมือนกันทั่วโลก แถมเจ้าลาเต้ตัวนี้ยังพิเศษตรงที่เขาใช้ไซรัปพิเศษกลิ่นคุกกี้ และโกโก้นิปส์เพื่อเพิ่มเทกซเจอร์ให้ไม่เหมือนใครอีกด้วย

มาถึงพาร์ตของหวานกันบ้างที่เราคงต้องบอกว่าเซอร์ไพรส์เราไม่แพ้พาร์ตเครื่องดื่ม เพราะสูตรขนมทั้งหมดของ Cafe Kitsune สาขาแรก ณ เอ็มควอเทียร์นี้ ได้รับการส่งต่อมาจากครัวขนมหวานของคาเฟ่ที่ฝรั่งเศส 100% ดังนั้นไม่ว่าจะเป็น Lemon Cake (160 บาท) Brownie (110 บาท) ไปจนถึงเจ้าขนมซิกเนเจอร์ที่ทุกคนต้องซื้อมาถ่ายรูปอย่าง Fox Shortbread (80 บาท) บิสกิตรูปสุนัขจิ้งจอกที่เหมือนเป็นคาแรกเตอร์หลักของแบรนด์นี้ ก็การันตีรสชาติว่าเหมือนกันกับตัวคาเฟ่ที่ฝรั่งเศสเลยด้วยนะ
เมนูขนมหวานตัวที่เราชอบเป็นพิเศษขอยกให้กับ Japanese Cheesecake (160 บาท) ชีสเค้กแบบอบที่ให้เทกซเจอร์เนื้อค่อนข้างร่วน รสชาติหวานน้อยแต่หอมกลิ่นชีสมาก ๆ ถือเป็นการชิมลางของขนมหวานจากทางฝั่งญี่ปุ่นที่แว่ว ๆ ว่าเร็ว ๆ นี้เขาจะเปิด Cafe Kitsune อีกสาขาในย่านโอลด์ทาวน์ที่จะเน้นไปที่คอนเซปต์แบบญี่ปุ่นจ๋า ๆ ด้วย!


อิ่มท้องกับขนมหวานแถมได้เติมคาเฟอีนเข้าร่างกันเรียบร้อยแล้ว ใครที่เป็นแฟน Maison Kitsune ตัวจริง ก็สามารถแวะไปจับจ่ายใช้สอยกับโซนแฟชั่นที่เขาขนไอเทมเด็ด ๆ มาวางขายมากที่สุดในไทย ทั้งคอลเลกชัน Best Seller ที่มาพร้อมเสื้อผ้าโทนสีเบสิกอย่าง ดำ-ขาว-เทา ไปจนถึงคอลเลกชันพิเศษที่เล่นสีสันขึ้นมาอีกสเตป พร้อมลายกราฟิกที่ตอนนี้เน้นไปที่สีนีออน ก็มีให้เลือกชอปปิงกลับไปใส่ที่บ้านกันได้แบบเพลิน ๆ หรือจะไปชอปปิงไอเทมในส่วน Merchandise ที่มีให้ตำตั้งแต่แก้ว Mug แก้ว Tumbler ไปยันปากกาและกระเป๋าโทตรูปโลโก้แบรนด์และลายน้องจิ้งจอกที่ใครเห็นก็รู้เลยว่าเป็น Maison Kitsune เอาไว้สะสมเก๋ ๆ ด้วยก็ได้เหมือนกัน
Soimilk Says: เราชอบการลงดีเทลของการตกแต่งทั้งร้านแบบองค์รวม มีการใช้วัสดุไทย ๆ มาผสมด้วย อย่างหวายสานและผนังไม้ไผ่ ให้ความรู้สึกเลอค่าสมกับเป็น Cafe Kitsune สาขาแรกในดินแดนสยามเมืองยิ้มแห่งนี้สุด ๆ ส่วนข่าวล่ามาเร็วที่บอกว่าเขากำลังจะมีสาขาที่ 2 ในเร็ว ๆ นี้ รับรองว่าเราจะรีบคาบข่าวมาบอกก่อนใคร เอาให้ไวกว่าน้องจิ้งจอกโลโก้แบรนด์แน่ ๆ!
Cafe Kitsune ชั้น G โซน Helix ศูนย์การค้า EmQuartier เวลาทำการ ทุกวัน 10:00-20:00 น. BTS พร้อมพงษ์ Line ID: @Cafekitsune_TH