เย้ายวนชวนมอง กับหนังบัลเลต์ Birds of Paradise ที่พาไปดูการฟาดฟันด้วยท่วงท่างดงามพลิ้วไหว แต่จิตใจหวังเอาชนะ

เป็นคอนเทนต์ที่ไถผ่านฟีดไปมาอยู่หลายรอบ สำหรับหนังวัยรุ่นโทนดาร์ก ๆ ที่ใช้การเต้นบัลเลต์เป็นหน้าฉากอย่าง Birds of Paradise แต่พอเราได้เริ่มดูจริง ๆ กลับพบว่าหนังเรื่องนี้มีอะไรมากกว่าการเป็นหนังที่ว่าด้วยการแข่งขันและชิงดีชิงเด่นระหว่างวัยรุ่นมากนัก แถมยังจัดองค์ประกอบภาพ แสง สี และดนตรีได้ดูดีมีสไตล์สุด ๆ ไปเลยด้วย ใครที่กำลังคิดจะข้ามคอนเทนต์นี้ไปเพราะภาพนิ่งโปรโมต เพราะโปสเตอร์ หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ ขอให้คิดอีกรอบนะจ๊ะ

 

 

Birds of Paradise เล่าถึงเด็กสาวนักบัลเลต์หน้าใหม่จากอเมริกาที่ต้องมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโรงเรียนบัลเลต์ฝรั่งเศสที่สุดแสนจะอีลีต ความยากลำบากของเธอไม่เพียงอยู่ที่ 'ต้นทุน' ซึ่งดูจะติดลบ ไม่เหมือนเพื่อน ๆ เท่านั้น แต่ยังอยู่ที่บรรยากาศไม่เป็นมิตรของครูและนักเรียนชาวฝรั่งเศสทั้งหลายอีกด้วย

 

ความจริงความไม่เป็นมิตรแบบที่ว่าก็พอเข้าใจได้อยู่หรอก เพราะนักเรียนบัลเลต์แต่ละคนมาเพื่อแข่งขันให้ได้มาซึ่งรางวัลประจำปี ที่คณะบัลเลต์แห่งกรุงปารีสจะมอบสัญญาจ้างให้กับนักเต้นที่ดีที่สุด 2 คนเท่านั้น โดยเลือกจากนักบัลเลต์ชาย 1 คน และนักบัลเลต์หญิงอีก 1 คน

 

 

ความกดดันที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันน่าจะเป็นสิ่งที่คาดเดาได้และควรจะรับมือได้สำหรับนักเต้นที่ต้องการเป็นมืออาชีพอยู่แล้ว แต่ความแปลกแยกอีกหนึ่งประการของตัวละครเดินเรื่องของเราก็คือ เธอคนนี้ไม่เข้ากับ 'พิมพ์นิยม' ข้อไหนของวงการบัลเลต์ฝรั่งเศสเลยแม้แต่น้อยนี่สิ ซึ่งก็ยิ่งทำให้เธอถูกมองอย่างไม่เห็นความสำคัญมากขึ้นไปอีก

 

อีกตัวละครที่สำคัญไม่แพ้กันคือนักบัลเลต์อเมริกันอีกคนที่เคยเป็นดาวเด่นของโรงเรียนนี้ จนกระทั่งเกิดเหตุน่าสลดใจขึ้นกับคู่เต้นของเธอ ซึ่งคาแรกเตอร์ทั้งสองดูจะถูกสร้างมาให้เป็น 'หยิน-หยาง' เป็นขั้วตรงข้ามของกันและกันอย่างชัดเจน ถึงจากหน้าฉากแล้ว หนังจะเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคน ความปรารถนา การชิงดีชิงเด่น เซ็กซ์ และยาเสพติด แต่ลึกลงไป มันเล่าเรื่องกลไกอำนาจ การควบคุม การยอมถูกควบคุม ความแพ้ชนะ และความมอมเมาได้ออกมาน่าดูมาก ๆ

 

 

 

แม้ว่าคะแนนนักวิจารณ์ของเรื่องนี้จะไม่สูงนัก แต่โดยรวมแล้วผลงานชิ้นนี้กลับตรึงหัวใจเราได้อย่างน่าประหลาด และชวนให้เราตั้งคำถามด้วยว่า 'อำนาจที่แท้จริงเป็นของผู้ชนะเสมอ... จริงหรือ?' และ 'การได้มาซึ่งทุกอย่างคือหนทางไปสู่ความสุขของคนเราจริงหรือเปล่า?' ซึ่งด้วยเสน่ห์ของนักแสดงนำอย่าง Kristine Frøseth และ Diana Silvers แล้ว บอกเลยว่าดูแล้วหลงมาก ๆ เป็นหนังวัยรุ่นที่เก๋มากจริง ๆ