จะเรียกว่าไฮป์ก็ไฮป์นั่นแหละ แต่เราไม่อยากให้ความไฮป์ของหนังไทยคุณภาพเยี่ยมเรื่อง Blue Again ที่คนในงาน World Film Festival of Bangkok ปีนี้ล้วนแต่พูดถึง ทำให้คอหนังทั่วไปคิดไปก่อนว่าผลงานเรื่องนี้เป็น 'หนังเทศกาล' ที่เข้าถึงยาก หรือต้องผ่านการตีความใด ๆ เพราะความจริงแล้วนี่คือหนังที่บรรจงสร้างมาให้เข้าถึงจิตใจเบื้องลึกของคนดูที่สุด ไม่ว่าจะเป็นใคร มาจากไหนก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคนที่ 'โลกไม่เข้าใจ' อย่างชาวอินโทรเวิร์ต (รวมเรา/ผู้เขียน) ด้วยแล้ว
Blue Again เล่าถึงเด็กสาวต่างจังหวัดจากครอบครัวที่บ้านทำอาชีพย้อมคราม ที่เข้ามาเรียนสาขาแฟชั่นในกรุงเทพฯ และตัวเธอก็มีสกิลด้านออกแบบอยู่พอตัวเลยทีเดียว แต่สกิลการออกแบบชิ้นงานของเธอไม่เคยช่วยให้เธอมีสกิลออกแบบชีวิตตัวเองเลยแม้แต่น้อย และกลายเป็นว่านอกจากเพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกันเพียงคนเดียวแล้ว เธอก็ไม่มีใครจะแบ่งปันเรื่องราวในแต่ละวันด้วยได้อีก จนกระทั่งได้พบกับเพื่อนใหม่ในคณะโดยบังเอิญในช่วงรับน้อง -ช่วงเวลาที่อินโทรเวิร์ตทั้งหลายเกลียดที่สุด-

เอ คือสาวลูกครึ่งรูปลักษณ์โดดเด่นที่ค้นพบว่า 'จังหวะ' ของเธอ ดูจะเข้ากับคนรอบข้างไม่ได้เลย เธอมักจะมองเห็น 'คนประเภทเดียวกับตัวเอง' ชัดกว่าคนอื่นเสมอ เมื่อใครสักคนถูกล้อ หรือถูกมองว่าแปลก ก็จะเป็นเธอทุกครั้งที่มองเห็นความไม่เป็นธรรมของโลกนั้นก่อน ราวกับว่าผู้ถูกล้อ ถูกมองว่าแปลก เป็นตัวเธอเอง ซึ่งหากจะมองเช่นนั้นก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก เพราะเธอเองคือลูกหลานคนย้อมคราม และในนัยหนึ่ง... เธอเองก็คือครามด้วย
"ครามก็เหมือนคน... ถ้าไม่ดูแล ก็ป่วยก็ตายไป"
ศาสตร์ของการย้อมครามนั้น สิ่งสำคัญคือการดูแลจุลินทรีย์ที่จะมาเปลี่ยนสีเปลี่ยนเนื้อสัมผัสของเส้นใยผ้า อากาศที่หนาวเย็นมักทำให้การย้อมไม่ได้อย่างใจคิด เพราะไม่ใช่อากาศที่ 'ใช่' สำหรับคราม ศาสตร์ของการดำเนินชีวิตในฐานะเอก็ไม่ได้ต่างกัน เมื่ออยู่ผิดที่ ผิดน้ำ ผิดอากาศ เธอก็ไม่ได้แสดงสีสันที่ 'ใช่' ที่จริงแท้ของเธอออกมา และสิ่งที่ไม่แสดงออกมาก็ย่อมไม่ถูกเห็น เมื่อไม่ถูกเห็น ก็จะไม่ได้รับการยอมรับ นั่นคือชีวิตมหาวิทยาลัยของเอ 'ครามที่กำลังเจออากาศหนาวเย็น'




คำว่า Blue จากชื่อ Blue Again มาจากเรื่องราวพาร์ตการย้อมครามนี้ คราม ที่ต้องรอเวลาจนอากาศเข้าที่เข้าทาง จึงจะกลับมา 'คราม' ได้ถูกเฉดอีกครั้ง จึงจะมีชีวิตได้อีกครั้ง ความลึกซึ้งทั้งหมดที่เรียงร้อยออกมาได้ดีงามเหลือเกินนี้ มาจากไอเดียตั้งต้นในช่วงที่ ฐาปณี หลูสุวรรณ ผู้เขียนบทและกำกับ ยังคงเรียนอยู่ และต้องการทำผลงานนี้เป็นหนังสั้นธีสิส ซึ่งก็แน่นอนว่ามันไม่เคยสั้นมาแต่เดิม เมื่อพยายามมาขยายเป็นฟีเจอร์ฟิล์ม ดราฟต์แรกจึงออกมายาวถึง 5 ชั่วโมงด้วยกัน
จาก 5 ชั่วโมงที่อธิบายหัวใจของคนอินโทรเวิร์ตได้อย่างกระทบทุกอณูความรู้สึก ฐาปณีเลือกที่จะตัดทอนมันลงเหลือ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ และส่งเข้าร่วม เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ประเทศเกาหลี จนได้เข้าชิงในสาขา New Currents กลายเป็นรอบเวิลด์พรีเมียร์ที่แสนจะมีความหมาย ทั้งสำหรับ 'คนสร้าง' ที่ใช้เวลาปั้นแต่งมันนานถึง 8 ปี และสำหรับ 'คนดู' อย่างเรา ที่แทบจะรอคอยจะให้ผู้กำกับคนนี้และหนังเรื่องนี้ไปเจิดจรัสในเวทีระดับโลกที่ใหญ่กว่านี้ไม่ไหว
เอาดี ๆ คนไทยอาจจะได้ลุ้นไปออสการ์ก่อนไปบอลโลกอีกนะ
Blue Again เข้าฉายเต็มโปรแกรมในโรงภาพยนตร์ วันที่ 8 ธ.ค. ที่ House Samyan, SF World Cinema และ SFX Cinema Maya Chiangmai