ออกไปเที่ยวกระบี่แบบใหม่ที่สนุกด้วย ได้ดูแลธรรมชาติไปด้วย

เราเชื่อว่า กระบี่ ยังคงเป็นอีกหนึ่งปลายทางหลักของใครที่อยากไปดูทะเลสวย ๆ หาดทรายขาว ๆ ดำน้ำดูปะการังและเกาะแก่งต่าง ๆ ไม่ต่างจากจังหวัดอื่นของภาคใต้บ้านเราเลย แม้ช่วงหลัง ๆ มานี้กระบี่อาจไม่ค่อยบูมเหมือมเมื่อก่อน แต่เราก็ยังเห็นผู้คนแวะเวียนไปเที่ยวจังหวัดนี้กันอยู่เสมอ และเมื่อเกิดการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมากขึ้น มีการท่องเที่ยวสอดรับกับกลุ่มของนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามา สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่าเป็นผลเสียของการท่องเที่ยวคือการทำลายสมดุลทางธรรมชาติ ซึ่งที่จริงแล้วเราสามารถช่วยกันฟื้นฟูธรรมชาติที่เราได้ไปเยี่ยมเยือนไปพร้อม ๆ กับการเที่ยวของเราด้วยนะ เหมือนอย่างที่ Soimilk ได้ไปกระบี่มาล่าสุดนี้ก็แอบเที่ยวแบบรักษ์โลกไปด้วยเหมือนกันแหละ

 

 

 

เราเดินทางไปกระบี่ง่าย ๆ ด้วยเครื่องบินจากสายการบินไทยไลออนแอร์ ลงถึงสนามบินปุ๊บ นั่งรถมาอีกแป๊บเดียวก็ถึงจุดกมายแรกของเราแล้ว งานนี้ขอปอบนอกใจสถานที่ท่องเที่ยวฮิต ๆ อย่างอ่าวนาง หมู่เกาะน้อยใหญ่ทั้งเกาะปอดะ เกาะไก่ เกาะไม้ไผ่ หมู่เกาะลันตา อ่าวไร่เลย์ หรือทะเลแหวกก่อน เพราะเราจะลุยเที่ยวป่าชายเลนกันที่เขาขนาบน้ำ ซึ่งที่จริงแล้วที่นี่ก็ถือเป็นแลนด์มาร์กของกระบี่เหมือนกันนะ ที่เรียกว่าเขาขนาบน้ำเพราะบริเวณแม่น้ำกระบี่ด้านหน้าตัวเมืองนั้นจะมีเขาสองลูก ที่มีความสูงประมาณ 100 เมตรตั้งตระหง่านขนาบกันอยู่นั่นเอง 

 

 

 

เรานั่งเรือหัวโทงของกัปตันแจ๊ค สแปร์โรว (อ่านไม่ผิดหรอก ดูจากคาแรกเตอร์ภาพข้างบนแล้วก็ใช่เลย) ไปประมาณไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงเขาขนาบน้ำแล้ว ซึ่งที่เขาแห่งนี้มีถ้ำขนาดใหญ่ให้เราได้เข้าไปสำรวจและดูความสวยงามของหินงอกหินย้อยด้วย ถึงอย่างนั้นเองเรื่องราวของถ้ำนี้ก็น่าตื่นเต้นอยู่หน่อย ๆ เพราะที่นี่เคยเป็นที่พักพิงของทหารญี่ปุ่นมาก่อน เนื่องจากเขานี้ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำ ใครเดินทางผ่านตรงนี้ก็จะต้องให้ทหารญี่ปุ่นเหล่านี้ตรวจก่อน แต่พอญี่ปุ่นแพ้สงคราม ทหารญี่ปุ่นทั้งหมดในที่นี้ก็ฆ่าตัวตายกันจนหมด ภายในถ้ำเราจึงจะเจอทั้งโครงกระดูกของพวกเขา ภาพเขียนหนังถ้ำ และข้างของต่าง ๆ ที่ค้นพบด้วย

 

 

 

สำหรับคนทั่วไปอาจแวะมาเที่ยวถ้ำ ถ่ายรูปน้องลิงที่ซนบ้าง น่ารักบ้าง แล้วก็นั่งเรือหัวโทงกลับท่า แต่ที่จริงแล้วเราสามารถฟื้นฟูธรรมชาติได้ด้วยการแวะปลูกป่าชายเลนบริเวณนี้เสียก่อน เพียงปักกล้าลงไปบนดินเลนแถวนั้น ตีดินให้แน่น ๆ กันกล้าล้ม (และกันน้องลิงมาดึงกล้าไม้เล่น) เนี่ย แค่นี้เอง ง่ายมาก ๆ เราก็เรียกว่าเที่ยวเชิงนิเวศน์ มาเที่ยวแล้วสร้างธรรมชาติให้เติบโตขึ้นกว่าเดิมได้อีกด้วย

 

 

 

ออกมาจากเขาขนาบน้ำ เรายังสนุกกันได้ต่อกับดารนั่งเรือหัวโทงล่องแม่น้ำกระบี่ไปเรื่อย ๆ ขอบอกว่าจากจุดนี้เราสามารถบอกพี่คนขับเรือให้พาออกทะเล (ออกทะเลจริง ๆ ไม่ได้สำบัดสำนวนแต่อย่างใดนะ) ไปเที่ยวเกาะแก่งต่าง ๆ นานา ๆ ทั้งหาดไร่เลย์ หรือเกาะปอดะได้ด้วยนะ แต่สำหรับเราแล้ว แค่ล่องเรือดูวิถีชีวิตของผู้คนริมสองฝั่งแม่น้ำ ดูบรรยากาศของป่าชายเลนริมแม่น้ำ สลับกับเอามือราน้ำเย็น ๆ ระหว่างเรือแล่น ก็มีความสุขมาก ๆ แล้วล่ะ

 

 

 

แต่นอกจากที่เราจะล่องเรือเฉย ๆ แล้ว เรายังสามารถท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์แบบเก๋ ๆ ได้ด้วยนะ ด้วยการปล่อยปูลงสู่แม่น้ำ เพราะแถวนี้ขนาบไปด้วยป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์มาก ๆ และถือว่าเป็นแหล่งอาศัยชั้นดีของเหล่าน้องปู เพราะบริเวณนี้จะมีสิ่งมีชีวิตที่เป็นอาหารของน้องปูอยู่เยอะมาก เราก็แจ้งให้คุณพี่ที่ขับเรือหัวโทงช่วยเข้าไปใกล้ป่าชายเลนสักหน่อย ปูที่ได้มานั้นจะถูกมัดเชือกเอาไว้ เราเพียงใช้กรรไกรตัดเชือกให้ขาด ปูก็จะหลุดจากเชือกลงสู่ผืนน้ำได้ง่าย ๆ เนี่ย เที่ยวสนุกแล้วยังได้ปล่อยสัตว์อีกด้วย (แต่การปล่อยปูก็ไม่ได้จำเป็นว่าเราจะต้องงดกินปูไปด้วยนะ แถวริมแม่น้ำมีร้านอาหารซีฟู้ดอร่อย ๆ เต็มไปหมดเลย ลองแวะกินปูนึ่ง กุ้งอบ และหอยชักตีนสักมื้อสิ รับรองว่าฟิน !)

 

 

 

นอกจากเรือหัวโทงแล้ว การมากระบี่ก็ต้องนั่งสามล้อพ่วงข้างนี่แหละถึงจะบอกใครเขาได้ว่ามาถึงแล้วจริง ๆ คนกระบี่ไม่ค่อยนิยทใช้รถยนต์กันเพราะว่าถนนตามตรอกซอกซอยนั้นค่อนข้างเล็ก หากขับรถยนต์บางครั้งอาจเข้าซอยกลับบ้านไม่ได้ สามล้อพ่วงข้างจึงมาช่วยชีวิตชาวกระบี่ที่ต้องการเดินทางพร้อมกันหลายคน หรือต้องออกไปตลาดสด ไปชอปปิงซื้อของกลับเข้าบ้านเยอะ ๆ แบบที่ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์ไปคันเดียวจะแบกไม่ไหว รู้แบบนี้เราเลยขอขึ้นจากเรือหัวโทง แล้วไปลองนั่งสามล้อพ่วงข้างเพื่อเดินทางต่อไปยังชุมชนบ้านคลองกำ และชุมชนบ้านคลองลุ สองชุมชนที่อาศัยติดทะเล มีชายหาดทอดยาวให้เราได้เดินเล่นและเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ แถมยังมีโฮมสเตย์ให้ได้ลองพักแรมกันด้วย

 

 

ถึงอย่างนั้นเอง บริเวณชายหาดแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยขยะชิ้นเล็กใหญ่ต่าง ๆ มากมาย ไม่ใช่ว่าชาวบ้านแถวนี้เขาไม่ช่วยกันดูแลนะ แต่เป็นเพราะคลื่นทะเลพัดขยะจากเกาะต่าง ๆ และพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ เข้าฝั่งมาต่างหาก เราสามารถช่วยกันเที่ยวไปเก็บขยะริมหาดไปก็ดีเหมือนกันนะ แค่บอกชาวบ้านแถวนั้นว่าเราจะมาช่วยเก็บขยะ เขาจะเอาถุงขยะมาให้เรา และเขาก็ช่วยเก็บขยะด้วยนะ เรียกว่าช่วยกันคนละไม้คนละมือ หาดบ้านคลองลุจะได้สวย ๆ ขึ้นกว่าเดิมยังไงล่ะ งานนี้เราได้ Sea Life มาพาเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่กระบี่ เรื่องทะเลเนี่ยต้องยกให้เขาเลยแหละ แถมทาง Sea Life เองก็มีแผนที่จะรักษาและพัฒนาทะเลไทยให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ทุกปีอยู่แล้วด้วย ใครอยากลองไปเที่ยวกระบี่แบบรักษ์โลกรักษ์ทะเลอย่างเรา (ที่จริงไปที่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ) ก็ลองเอาไปทำตามดูได้นะ ยังเที่ยวสนุกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสถานที่ท่องเที่ยวสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิมจ้า