Skip to main content
AdSense

เช้าจรดเย็น: ประดิพัทธ์-สะพานควายที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก

จตุจักร-ลาดพร้าวก็คนไปเยอะขึ้นเรื่อยๆ อารีย์ก็ฮิปอยู่วันยังค่ำ วันนี้เราเลยอยากพาทุกคนไปเที่ยวสะพานควายกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นร้านแผ่นเสียง แกลเลอรี่เปิดใหม่ อาหารหลากหลายรูปแบบ จนไปถึงบาร์คราฟต์เบียร์ บอกเลยว่าไม่ได้มีแค่ Big C หรอกนะ ของแบบนี้ไม่ไปไม่รู้ ;) 

เช้าจรดเย็น: ประดิพัทธ์-สะพานควายที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก
September 23, 2016 Bangkok time
 
Aqua คือ โครงการคอมมูนิตี้มอลล์ที่เป็นแหล่งอาหารชั้นดีประจำย่านนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยร้านอาหารตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าเลยแหละ ด้านหน้าของโครงการจะเป็นที่ตั้งของร้าน Smiley Shrimp ร้านกุ้งถังที่ใช้เครื่องเทศ Cajun สูตรแท้จากอเมริกา
 
 
เพียงเลือกซีฟู้ดที่เราถูกใจ (เริ่มต้นที่ 289 บาท) จากกุ้งคัดพิเศษ กุ้งลายเสือ ล็อปสเตอร์ ปู หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และเครฟิชกันให้เมามัน และเลือกซอสซีซั่นนิ่งที่ชอบระหว่าง Garlic Butter หรือ Lemon Pepper ถ้าไม่ชอบเผ็ด หรือปรับความเข้มข้นของซอส Cajun Louisianna ได้สามระดับตามความต้องการ เลือกเครื่องเคียงเพิ่ม อาทิ ข้าวโพดหวาน หรือ โรตีสูตรพิเศษจากตรัง แค่นี้ก็เรียบร้อยลุยลงมือหม่ำกับแก๊งค์เพื่อนได้เลย 
 

 
ใครชอบหอยนางรมสดๆ แนะนำให้สั่งมาทานซักชุดคู่กับคราฟต์เบียร์ Coedo (239 บาท) ซักขวดก็ฟินแล้วจ้า แนะนำให้โทรไปจองโต๊ะนะถ้าจะไปช่วงเย็นหลังเลิกงาน 
 
490/3 ถนนพหลโยธิน โทร. 087-333-7888 เวลาทำการ ทุกวัน 11:00-22:00น. 
 

 

เราชอบที่ภายในคอมมูนิตี้เป็นลักษณะกึ่งโอเพ่นแอร์แต่มีหลังคาอยู่เราจึงสามารถนั่งด้านหน้าร้านอาหารได้โดยไม่ต้องกลัวฝนไป ภายในโครงการยังมีร้านอาหารหลากหลายเชื้อชาติให้เลือก อาทิ ซูชิบาร์และปิ้งย่างที่ In The Middle by Kaizen, ร้านซูชิบาร์ Sukina Sushi และ Yakizen ร้านอิซากายะ น่ารักๆ สำหรับคนที่อยากมานั่งร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น

 

 

นอกจากนี้ยังมีร้านดังอย่างชาบูนางใน และไอศครีมหม้อไฟยศเสที่มาเปิดสาขาถึงนี่เลยนะ เรียกได้ว่าไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล ถ้ากลัวไม่อิ่มก็สามารถลองอาหารเกาหลีบุฟเฟต์ได้ที่ร้าน Jimdak ในราคา 359 บาท/คนนะ

 

 
อีกหนึ่งร้านที่เป็นที่นิยมมากคือ กู โรตีชาชัก ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ป 1996 แล้วตั้งแต่อยู่ในซอยอารีย์ แน่นอนว่าต้องเน้นเมนูโรตีที่หลากหลายมาก ทั้งเมนูคลาสสิคแต่อร่อยรสชาติดั้งเดิม (เริ่มต้นที่ 20 บาท) จนไปถึงเมนูฟิวชั่นที่ทางร้านรังสรรค์ขึ้นมาอย่าง โรตีทิชชู่บางกรอบ (เริ่มต้นที่ 50 บาท) สามารถเลือกท็อปปิ้งได้เต็มที่ตั้งแต่ฟอยทองวิปครีม จนไปถึงไมโล และโรตีผักโขมอบชีส สั่งชาชักซักแก้ว (เริ่มต้นที่ 45 บาท) มาทานคู่กันด้วยจะได้อร่อยครบเซ็ตนะ 
 
 
เอ้อ! ทุกเดือนทางร้านจะมีเมนูสูตรพิเศษใหม่ๆ มาแนะนำกันด้วย (ตอนนี้เป็นเมนูคั่วกลิ้งผักสด!) ลองติดตามพอัพเดตได้ทางเพจเลยนะ 
 
490/6 โครงการ Aqua ถนนพหลโยธิน (แยกสะพานควาย) โทร. 086-696-2405 เวลาทำการ ทุกวัน 11:30-22:00น. 
Ansel & Elliott

 

เราเชื่อว่าหลายคนถูกใจกับเสน่ห์ในวันเก่าของความเป็น analog เราเลยอยากแนะนำให้รู้จักกับ Ansel & Elliott ซึ่งเป็นคาเฟ่ไซส์จิ๋วหนึ่งห้องเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุทธิสารวินิจฉัย ภายในร้านมีการตกแต่งสไตล์มินิมอลประกอบไปด้วยภาพถ่ายขาวดำ และแผ่นเสียง เต็มไปด้วยความรู้สึกสบายๆ เป็นกันเอง เหมือนไปนั่งชิลในห้องนั่งเล่นบ้านเพื่อนมากกว่า มีบริการเครืองดื่ม กาแฟ และของหวานง่ายๆ สำหรับไปนั่งพักผ่อนในวันที่วุ่นวาย

 

Ansel & Elliott

 

ส่วนเมนูกาแฟของทางร้านจะใช้เมล็ดกาแฟจากเชียงใหม่ (Pacamara - เริ่มต้นที่ 50 บาท) และเมนูชาไทยเบลนด์พิเศษ (60 บาท) เมนูของหวานของทางร้านจะเป็นเมนูโฮมเมดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเค้กชาไทยสุดนุ่ม (85 บาท) คุ็กกี้ (35-55 บาท) และบราวนี่ (55 บาท) ตอนนี้เพิ่งมีเมนูมัทฉะบราวนี่และมัทฉะลาเต้ด้วยนะ ถ้าไม่ชอบกาแฟก็ไปลองดูได้ ถ่ายรูปสวย และน่าหม่ำอีกด้วย จะไปนั่งเล่นอ่านนิตยสารเกียวกับการถ่ายภาพทั้งวันก็ไม่ผิด

 

19 ถนนสุทธิสาร โทร. 095-239-1502 เวลาทำการ ทุกวัน 9:00-20:00น.


 
 
ตั้งอยู่ระหว่างประดิพัทธิ์ซอย 12-14 ร้าน Coffee Model เป็นทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ที่ให้กลิ่นอายความเป็นร้าน curiosity shop อยู่เล็กๆ ด้วยการตกแต่งด้านในร้านด้วยของสะสมเก่าของเจ้าของร้าน ไม่ว่าจะเป็นของเล่น กล้องโบราณ จนไปถึงตู้ jukebox ภายในร้านมีบริการอาหารไทยจานเดียวซะส่วนใหญ่ อาทิ ผัดไทกุ้งสด และข้าวอบกระเทียมกุ้ง (ราคาระหว่าง 90-150 บาท) ส่วนเมนูของหวานที่เราอยากแนะนำเป็นพิเศษ คือ ชีสเค้กชาเขียวรสชาติกลมกล่อมกำลังดี มีบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง สามารถมานั่งทำงานได้ตลอดวันอย่างไม่มีปัญหา
 

 

อาจจะฟังดูเหมือนคาเฟ่ทั่วไป แต่ส่วนที่เป็นจุดเด่นของร้าน คือ บริเวณสวนขนาดใหญ่ด้านนอก ซึ่งมักจะเป็นที่จัดอีเวนต์อยู่เป็นประจำ เช่น ตลาดนัดธรรมชาติ ตลาดผักผลไม้ออร์แกนิกที่คงคอนเซ็ปต์จากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคโดยตรง นอกจากนี้ยังมีของเครื่องใช้จุกจิกและเวิร์กช็อปมัดย้อมอยู่เป็นบางครั้ง งานนี้จัดขึ้นทุกต้นเดือนนะ  

 

 
นอกจากนี้บริเวณสเปซเอาท์ดอร์นั้นยังเป็นที่จัดของมินิคอนเสิร์ตช่วงต้นปีอีกด้วย โดยที่ทุกปีจะมีธีมที่ต่างกันไป (ล่าสุดนี้ได้ป็อบ Calories Blah Blah มาแสดงด้วยจ้า) ในวันที่อากาศดี เราแนะนำให้ไปนั่งบริเวณสวนพร้อมกับสั่งเครื่องดื่มมาทานให้เย็นชื่นใจ มีตั้งแต่น้ำผลไม้โซดาหลากรส กาแฟ สมูทตี้ และเบียร์ไทยในราคาที่เป็นกันเอง
 
190/1 ถนนประดิพัทธ์ (ระหว่างซอย 12-14) โทร. 081-991-0000 เวลาทำการ ทุกวัน 10:30-22:00น.

 

วินาทีที่เหยียบเข้าไปในร้านจะได้ยินเสียงเพลงที่เปิดจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ตั้งอยู่ภายในร้าน อย่าตกใจไปนะเพราะว่าพอเดินเข้าไปจะเจอกับคอลเลคชันแผ่นเสียงที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งมือหนึ่งและมือสอง แผ่นเสียงเพลงไทยเก่ายุคดึกดำบรรพ์ และแผ่นนำเข้าจากต่างประเทศ เรียกว่ามีครบทุกแนวดนตรีเลยทีเดียว ราคาเริ่มต้นที่ 400 บาทสำหรับแผ่นมือสอง

 

 

ครั้งที่แล้วที่เราไปเยี่ยมเยียนทางร้านเราสังเกตเห็นทั้งแผ่นเพลงไทยจากค่ายเบเกอรี่ และ GMM จนกระทั่งไปถึง Amy Winehouse, Radiohead, Pink Floyd และแผ่นเพลงแจ๊ส (Norah Jones ก็มี!) แนะนำให้ใช้เวลาเดินหาแผ่นไปเรื่อยๆ นะ อาจจะเจออะไรดีๆ เข้าก็ได้

 

 

ร้านเพิ่งย้ายเข้าไปในซอยประดิพัทธ์ 19 และร้านมีแผนจะนำเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาขายเพิ่มขึ้นมาด้วยนะ

 

ซอยประดิพัทธ์ 19โทร. 086-666-8768 เวลาทำการ ทุกวัน 10:30-22:00น.


 

ย่านสะพานควายก็มีแกลเลอรี่แล้วนะรู้หรือเปล่า! เดินต่อมาถึงถนนพหลโยธินใกล้ๆ กับสี่แยกสะพานควายจะเจอกับ Buffalo Bridge Gallery ซึ่งส่วนหนึ่งเป็น co-working space (ที่ใช้ชื่อว่า Inn Office) โดยเพิ่งเปิดตัวงานนิทรรศการแรกไปเมื่อต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ภายในอาคารนั้นประกอบไปด้วย 5 ชั้น แบ่งออกเป็นบริเวณโต๊ะทำงาน ห้องประชุมส่วนตัว รวมไปถึงบริเวณจัดเวิร์กช็อปด้วย ซึ่งทางสเปซจะจัดขึ้นอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช็อปถ่ายภาพ หรือเป็นการจัดเสวนา

 

 

ส่วนชั้นบนจะเป็นสเปซดิบๆ ล้อมรอบไปด้วผนังขาวที่สามารถรองรับการจัดนิทรรศการได้หลายประเภท โดยทางแกลเลอรี่ตั้งใจเปิดขึ้นมาเพื่อให้พวกเราได้สามารถเข้าถึงผลงานของศิลปินไทยที่มีคุณภาพได้ง่ายขึ้นนั่นเอง แอบได้ยินมาด้วยว่าช่วงวันเปิดนิทรรศการทางแกลเลอรี่จะเปิดชั้นดาดฟ้าพร้อมจัดปาร์ตี้เล็กๆ ได้วิวติดกับสถานีรถไฟฟ้าเลยนะจะบอกให้

 

490/5 ถนนพหลโยธิน โทร. 02-616-6669 เวลาทำการ ทุกวัน 9:00-20:00น.


 
เนื่องจากทุกวันนี้อาชีพการทำงานของพวกเราได้ต่างออกไป ย่านนี้ก็มีสถานทีทำงาน co-working space เช่นกันนะ แต่ Muchroom Co-Working Space นั้นเป็นมากกว่าเพียงอาคารออฟฟิศให้เช่า เพราะอาคารเก่าแห่งนี่ที่มีอายุมานานกว่า 50 ปีได้ผ่านการรีโนเวทใหม่ให้กลายเป็นที่ทำงานบรรยากาศสบายๆ เหมือนคาเฟ่ที่มีโต๊ะทำงานซะมากกว่า บวกกับห้องทำงายส่วนตัวทั้ง 5 ห้องสำหรับให้เช่า มีแพ็คเก็จสำหรับ walk-in ในราคาพิเศษสุดที่ 199 บาท/วัน สำหรับบุคคลทั่วไป 159 บาท/วันสำหรับนักศึกษา และลดราคาถึง 50% สำหรับเวลาเช่าห้องประชุมในวันธรรมดา
 

 
ส่วนใครที่สนใจสมัครสมาชิกสามารถใช้งานได้ในราคา 3,900 บาท/เดือน, 9,900 บาท/สี่เดือน 17,100บาท/หกเดือน และ 29,200 บาท/ปี นะ!   
 
61 ซอยประดิพัทธ์ 23 โทร. 081-699-9872 เวลาทำการ ทุกวัน  9:00-20:00น.

 

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าลึกเข้าไปในซอยประดิพัทธ์ 6 นั้นยังมีร้านอาหาร-บาร์ขนาดย่อมซ่อนอยู่ในซอย อาจจะคุ้นชื่อกันมาตั้งแต่สมัยที่ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ภายในร้านมีผนังเป็นสีเขียวอ่อน มีการตกแต่งด้วยของสะสมจุกจิกของเจ้าของร้าน 

 

 

เมนูอาหารอาจจะไม่ได้ยาวเฟื้อยมากมาย แต่ขอบอกว่าเมนู signature เบอร์เกอร์ของที่นี่เด็ดมากต้องห้ามพลาด (อย่างที่เราเคยเล่าให้ฟังไปแล้วในบทความนี้) แถมราคายังเป็นมิตรมาก (ตั้งแต่ 145-250 บาทเท่านั้น) นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารคอมฟอร์ทฟู้ดอย่างฟิชแอนด์ชิพส์ด้วย แนะนำให้สั่งเฟรนช์ฟรายส์และซอสทาร์ทาร์โฮมเมด (70 บาท) มาทานคู่กัน พร้อมกับเบียร์อีกซักขวดด้วยนะ มีให้เลือกระหว่างเบียร์ลาว, Heineken, Leo หรือถ้าสนใจค็อกเทลมากกว่าก็ลองคุยกับพี่ดาวท์ที่ดูแลบาร์อยู่ได้เลย ราคาประมาณ 180 บาทจ้า บรรยากาศเป็นกันเองมากสามารถรีเควสเปิดเพลงได้นะ 

 

 
เราแอบได้ยินมาด้วยนะว่าทางร้านจะเริ่มเสิร์ฟอาหารกลางวันเร็วๆ นี้ เอ้อแต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าจอดรถลำบากนิดนึงนะเพราะซอยแคบหน่อยนะ แต่รับรองว่าคุ้มที่จะแวะไปสำหรับคนรักเบอร์เกอร์ ต้องไปเก็บให้ครบถูกป่ะล่ะ! 
 
ประดิพัทธ์ซอย 6 ถ. ประดิพัทธิ์ โทร. 081-633-9495 เวลาทำการ ทุกวัน 17:00-00:00น.    

 

ดึกแล้วถ้าไม่อยากไปไหนไกล เราแนะนำให้ไปลองดื่มคราฟต์เบียร์ที่ Brewix ร้านขนาดหนึ่งห้องแถวที่เต็มไปด้วยเบียร์นำเข้าและคราฟต์เบียร์ที่ทางร้านได้คัดเลือกมา การันตีว่าทุกคืนจะมีเบียร์สด 6 ประเภท ซึ่งจะหมุนเวียนไปเรื่อยๆ อาทิ Brewdog Punk IPA, Guinness ในราคา 250 บาททุกแก้ว นอกจากนี้ยังมีไซเดอร์สดของ Brothers Cider ด้วยนะสำหรับสาวๆ ที่ชอบเครื่องดื่มรสหวานมากว่า

 

 

ถ้าไม่มั่นใจว่าชอบแบบไหน ทางร้านมีบริเวณ Tasting Test ให้เราสามารถลองจิบเบียร์จากแท็ปได้ทุกประเภทก่อนจะตัดสินใจสั่งเลยแหละ ส่วนเบียร์ขวดราคาเริ่มต้นที่ 180-500 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทและความหายากของเบียร์นำเข้า เมนูอาหารจะเป็นประเภทกับแกล้มโฮมเมด ภายในร้านเปปิดไฟสลัวๆ เหมาะกับหลบฝูงชนที่วุ่นวายบนถนนข้างนอก

 

 
แต่ในวันที่อากาศดีเราแนะนำให้ไปนั่งบริเวณด้านหน้าร้าน ชิลมากขอบอก เราแอบได้ยินมาว่าในอนาคตทางร้านจะเปิดชั้นสอง และบริเวณรูฟท็อปด้านหลังของร้านด้วยนะ ติดตามกันได้เร็วๆ นี้จ้า 
 
โทร. 616-6899 เวลาทำการ ทุกวัน 17:00-00:00น. 
   

เปิดมุมมองใหม่ของการใช้ชีวิตที่ เดอะ ไลน์ พหล-ประดิพัทธ์ เพียบพร้อมด้วยแหล่งแฮงค์เอาท์กลางเมืองที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งชิลหรือร้านอร่อย ตลอดจนแหล่งช้อปปิ้งสะดวกสบาย เพียบพร้อมด้วยการเดินทางที่หลากหลาย ทั้ง BTS สะพานควาย MRT จตุจักร และทางด่วนที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมทำให้เชื่อมต่อทุกความต้องการของชีวิตเมืองได้ไม่รู้จบ เข้าไปเปิดมุมมองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ได้ที่ www.sansiri.com/condominium/theline-phahon-pradipat/th

YouTube video


 

AdSense
AdSense
AdSense