Skip to main content

เช้าจรดเย็น: ห่างไกลความวุ่นวายบนถนนพระสุเมรุ

ดูเหมือนช่วงนี้ฝนก็จะตกตลอดเวลาเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะอยู่แต่ในบ้านนะ! วันนี้เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักถนนเส้นหนึ่งในย่านเมืองเก่า ที่เต็มไปด้วยคาเฟ่ หอศิลป์ จนกระทั่งบาร์ เราสามารถไปใช้เวลานั่งทำงาน นั่งเล่นพักผ่อน (หลบฝน) ได้ทั้งวันภายในรัศมีเพียง 350 เมตรเท่านั้น มาออกจากบ้านไปเปลี่ยนบรรยากาศกัน : ) 

 

เช้าจรดเย็น: ห่างไกลความวุ่นวายบนถนนพระสุเมรุ
June 13, 2016 Bangkok time
 
อาจจจะไม่ใช่อาร์ตสเปซร่วมสมัยฮิปๆ ที่เรามักจะไปเดินเล่นกัน เพราะหอศิลป์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2546 แล้ว! แต่เราชอบความตั้งใจของแกลเลอรี่แห่งนี้ที่จะสนับสนุนศิลปินไทยโดยการเผยแพร่ผลงานที่ดีเด่นสู่ประชาชน โดยชั้นที่ 1-4 จะใช้แสดงนิทรรศการหมุนเวียน และชั้น 5 เป็นสถานที่จัดงานกิจกรรมตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นการเสวนา การแสดงดนตรี หรือกิจกรรมเวิร์กช็อปต่างๆ แต่คนรุ่นใหม่อาจจะยังไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่อื่นๆ ถ้ารู้ตัวว่าชอบงานจิตรกรรมก็อย่าลืมแบ่งเวลาไปเดินชมงานกันบ้างนะ 
 
ภาพจากนิทรรศการ Present Perfect ความดีที่ยังดำเนินต่อไป 
What's happening: ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมามีงานนิทรรศการที่จัดโดยนักศึกษาปีสุดท้ายจากหลายสถาบันมาก แต่งานนิทรรศการศิลปนิพนธ์ยอดเยี่ยมประจำปี 2559 นี้ได้คัดเลือกผลงานดีเด่นของนักศึกษาป.ตรีและโทจาก 35 สถาบันจากทั่วประเทศมาจัดแสดงร่วมกันในที่เดียวเลยนะ เริ่มแสดงตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.- 23 ก.ค. 2559 ยังไงก็วางแผนดีๆ กันนะ  
ถนนราชดำเนินกลาง โทร. 02-281-5360-1 เวลาทำการ ทุกวัน (เว้นวันพุธ) เวลา 10:00-19:00น. (ค่าเข้าชม 50บาท) www.queengallery.org 

โกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ ณ ผ่านฟ้า
 
เราว่าหลายคนอาจจะคุ้นกับชื่อร้านเก่าแก่แห่งนี้แล้ว แต่บอกไว้ก่อนนะว่าสาขาผ่านฟ้าไม่ใช่ร้านออริจินัล (สาขาแรกตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก แต่ชื่อว่าเฮี้ยไถ่กี่เฉยๆ) ซึ่งเป็นร้านอาหารเช้าสไตล์ไทย-จีนที่อยู่มากว่า 60 ปีแล้ว ภายในร้านมีการออกแบบให้มีลักษณะเหมือนสภากาแฟสมัยก่อน มีอาลุงอาป้ามานั่งคุยกันรอบโต๊ะกลม ทุกวันนี้ที่เราแวะไปสาขานี้ก็ยังคงได้บรรยากาศแบบนั้นอยู่นะ และแน่นอนว่าอาหารจานเด็ดของที่นี่ก็หนีไม่พ้นไข่กระทะ กับกาแฟโบราณ ส่วนเมนูใหม่ที่นิยมสั่งกันจะเป็นเมนูโรตีแกงเขียวหวาน แต่เตือนไว้ก่อนว่ารสชาติเครื่องดื่มของที่นี่จะติดหวานหน่อยนะ  
 
 
526 ถนนพระสุเมรุ โทร. 02-629-0646 เวลาทำการ ทุกวัน 7:00-20:00น. 
 
เดิมทีที่พักบนถนนพระสุเมรุแห่งนี้เคยใช้ชื่อว่า Old Bangkok Inn ซึ่งได้ส่งต่อกันมาถึง 7 รุ่น ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตอนนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนธีมใหม่โดยการเติมลูกเล่นด้วยจักรยานวินเทจ พร้อมกับบริการเช่าจักรยานฟรีสำหรับลูกค้าที่อยากปั่นทัวร์เกาะรัตนโกสินทร์ ภายในจะมีการตกแต่งคลาสสิคแบบยุค ‘20s เน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ และภาพวาดบนผนังที่ย้อนกลับไปในยุคสยามประเทศ เราว่าน่ารักมากเลย (ถ้าชอบโรงแรมบูติกสไตล์วินเทจลองตามไปอ่านบทความนี้นะ

สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจจะพัก Staycation ก็สามารถเข้าไปใช้บริการร้านกาแฟเล็กๆ ด้านในได้ นั่งบริเวณเคาน์เตอร์ติดกระจกนั่งมองรถผ่านไปมาเพลินๆ มีบริการเสิร์ฟอาหารประเภทวาฟเฟิลและกาแฟในบรรยากาศเงียบสงบและวินเทจแท้ๆ เลยล่ะ
607 ถ. พระสุเมรุ โทร. 02-629-1787 www.oldcapitalbkk.com

 
ร้านใหม่สุดบนถนนเงียบๆ เส้นนี้ต้องยกให้ Life and Kuisine โดดเด่นด้วยกำแพงสีน้ำเงินสดจากด้านนอก คอนเซ็ปต์ของร้านเกิดจากความตั้งใจของเจ้าของที่อยากให้เป็นแหล่งพบปะแฮงเอาท์ของเหล่าไบค์เกอร์และนักปั่น ดังนั้นด้านหน้าร้านจะมีที่แฮงจักรยานไว้บริการสายปั่นโดยเฉพาะ และมักจะเป็นที่จอดบิ๊กไบค์และเวสป้าของลูกค้าที่มาแวะเวียน

 
ภายในร้านนั้นให้ความรู้สึกลุยๆ กับกำแพงอิฐและโซฟาเบาะหนัง เราแนะนำให้ลองเมนู BBQ Rib (380 บาท) ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิวเนื้อนุ่มชุ่มซอส และบราวนี่ยอดนิยมของทางร้าน ฮอตจนบางทีต้องโทรมาจองกันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเปิดไม่นานแต่ก็มีลูกค้าแวะเวียนมาเยี่ยมตลอดทั้งวัน เพราะบรรยากาศที่นี่ก็ชิลมาก เหมาะฟังเพลงปั่นงานได้สบายๆ ช่วงเช้า-บ่ายเพราะจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะร้านจะยังไม่พลุกพล่านจนเกินไป  
ถนนพระสุเมรุ เวลาทำการ อังคาร-ศุกร์ 10:00-20:00น. วันเสาร์ 07:00-19:00น.อาทิตย์ 07:00-17:00น. หยุดทุกวันจันทร์ โทร. 092-919-4656

 
“Free Space for Slow Life” เป็นป้ายที่ติดอยู่ชั้นบนของคาเฟ่-แกลเลอรี่ไซส์กระทัดรัดแห่งนี้ จริงๆ แล้วอาคารแห่งนี้มีอายุมานานกว่าร้อยปีแล้วนะ แต่ได้ผ่านการรีโนเวทจนกลายเป็นอีกหนึ่งร้านสงบๆ ที่เราสามารถไปนั่งทำงานได้ เครื่องดื่มมีตั้งแต่กาแฟจนไปถึงแซงเกรียและคราฟท์เบียร์ด้วยนะ ทางร้านมีบริการของว่างโฮมเมดเล็กน้อย อย่างเช่นเมนูพิซซ่า และเคซาดีญ่า ส่วนชั้นสองนั้นเปิดเป็นแกลเลอรีเล็กๆ และยังเป็นสถานที่จัดอีเวนต์ดนตรีขนาดย่อมอีกด้วย

ลืมบอกไปว่าคาเฟ่แห่งนี้ก็ให้ความสำคัญกับการปั่นจักรยานเช่นกัน ดังนั้นเราสามารถนำจักรยานมาจอดไว้ได้ด้านหน้าร้านได้ ระหว่างแวะพักอ่านหนังสือสบายๆ ที่ตั้งอยู่ในร้าน หรือจะแวะนั่งทำงานซักแบบก่อนจะเดินเล่นต่อก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยนะ เพราะที่นี่มีปลั๊กและ wifi ด้วย
What's Happening: บริเวณแกลเลอรี่ชั้นสองกำลังจัดนิทรรศการ The Wandering Tree House ของ Ellen Chia ไปจนถึงวันที่ 20 มิ.ย. นี้นะ!   
533 ถนนพระสุเมรุ โทร. 084-754-8799 เวลาทำการ อังคาร-อาทิตย์ 11:00-23:00น.

ถึงแม้ว่าร้านหนังสืออิสระอาจจะไม่ได้มีหนังสือครบทุกหมวดหมู่อย่าง Kinokuniya หรือ Asia Books แต่เราชอบความรู้สึกที่ได้ไปเดินดูหนังสือเงียบๆ ภายในร้าน เพราะเราสามารถใช้เวลาเดินดูหนังสือไปเรื่อยโดยไม่ต้องใส่ใจเวลาซักเท่าไหร่ ซึ่งภายในร้านหนังสือเดินทางก็มีบรรยากาศสบายๆ อบอุ่นเป็นกันเอง และมีที่นั่งเงียบๆ สำหรับจิบน้ำชากาแฟ และบางทีช่วงวีคเอนด์ก็มีเมนูเค้กและขนมง่ายๆ ไว้ให้พวกเรารองท้องอีกด้วย  

ถึงจะชื่อว่าร้านหนังสือเดินทาง แต่อย่าเข้าใจผิดว่าในร้านจะมีแต่หนังสือท่องเที่ยวนะ เพราะที่นี่มีทั้งหนังสือมือสอง และหนังสือดีมีคุณภาพจากนักเขียนอิสระที่อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ซึ่งเป็นอีกประสบการณ์ที่ไม่ได้จากการไปห้องสมุด หรือการไปร้านหนังสือใหญ่ยักษ์ทั่วไป
 
What’s Happening: สัปดาห์ร้านหนังสืออิสระแห่งชาติครั้งที่ 4 จะจัดขึ้นในวันที่ 17-26 มิ.ย. นี้ ซึ่งทางร้านหนังสือเดินทางก็ได้ร่วมกิจกรรมนี้เช่นกัน จะมีโปรโมชั่นหรือกิจกรรมพิเศษอะไรบ้างก็อย่าลืมติดตามความเคลื่อนไหวทางเพจนะ
523 ถ. พระสุเมรุ โทร. 02-629-0694 เวลาทำการ พฤหัส-อาทิตย์ 10:30-19:00น.

 
จริงๆ แล้วบนเกาะรัตนโกสินทร์ก็เป็นที่ตั้งของมิวเซียมและหอศิลป์อยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Museum Siam หอศิลป์เจ้าฟ้า หรือจะเป็นหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน แต่ห้องศิลป์แห่งนี้มีเสน่ห์ที่แตกต่างจากที่ไหนๆ เพราะที่นี่เป็นเสมือนชุมชนคนถ่ายภาพที่ร่วมใจกันจัดแสดงนิทรรศการอยู่เรื่อยๆ ทำให้เรานึกถึง Kathmandu Gallery ในซอยปั้นเลย เราชอบที่ภาพถ่ายต่างๆ มีกลิ่นอายทำให้คิดถึงความเป็นอยู่ของวันวานในแต่ละเมือง ไม่อยากพลาดงานต่อไปก็อย่าลืมไปตามเพจด้วยนะ!
 
519 ถ. พระสุเมรุ โทร. 02-629-2841 เวลาทำการ อังคาร-อาทิตย์ 11:00-19:00น.

คนส่วนใหญ่อาจจะยังไม่รู้จัก Bangkok Bold กันซักเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วเป็นอีกร้านที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นทั้งสตูดิโอสอนทำอาหารไทยแบบดั้งเดิม นำโดยเชฟแอน ที่เคยประจำอยู่ที่ Spice Market ณ โรงแรม Four Season และล่าสุดนี้เพิ่งได้ไปโชว์ฝีมือทำอาหารให้ Ban Ki Moon ที่นครนิวยอร์คมาด้วยนะ ใครสนใจอยากเพิ่มทักษะการทำอาหารก็สามารถเลือกได้ตามโปรแกรมบนเพจเลย เดือนนี้มีคลาสขิงแกะสลักดองด้วยนะ อยากรู้เป็นอย่างไรต้องไปลองด้วยตัวเอง! 

ส่วนใครที่อยากลิ้มลองฝีมืออาหารของเชฟ ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันเท่านั้น เพราะทางร้านจะเปิดบริการเสิร์ฟอาหารมื้อค่ำสไตล์ Chef’s Table แบบส่วนตัว บรรยากาศอาจจะดูไม่ได้หรูหรามากมาย แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นกันเอง และเมนูอาหารที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1,500 บาท/คน สำหรับอย่างน้อย 8 ท่านเท่านั้นนะ เหมาะไว้ไปจัดเลี้ยงมื้อพิเศษอยู่ไม่น้อยเลย 
503 ถนนพระสุเมรุ โทร. 098-829-4310 เวลาทำการ ทุกวัน 11:00-22:00น.

 
ท้ายสุดนี้ถ้าไม่กล่าวถึงบาร์แจ๊สเด็ดๆ แห่งนี้ ลิสต์ของเราก็คงจะไม่ครบถ้วน เพราะเป็นที่รู้กันว่า Brown Sugar นั้นเชี่ยวชาญเและโด่งดังในเรื่องดนตรีแจ๊สเป็นอย่างมาก จึงมีวงดนตรีมาเล่นสดแทบจะทุกวันโดยนักร้องไทยระดับแนวหน้า ไม่ว่าจะเป็นแนทและเอ้จากรายการ The Voice Thailand Season 3 หรือจะเป็นแขกรับเชิญพิเศษที่หมุนเวียนสลับกันมาโชว์ฝีไม้ลายมือกันอยู่เรื่อยๆ (อ่านลิสต์บาร์แจ๊สที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ได้ที่นี่เลย
 
 
ทางร้านบริการเสิร์ฟอาหารตะวันตกสไตล์คอมฟอร์ทฟู้ด เบียร์ ไวน์ และค็อกเทลทั่วไป ในถนนเส้นนี้อาจจะไม่ได้คลับให้เราไปกระโดดโลดเต้น แต่เราว่าแค่เดินเข้าไปในร้านกับแสงไฟสลัวๆ เสพย์เสียงดนตรีเพราะๆ ในยามค่ำคืนก็สนุกแล้ว  
469 ถ.พระสุเมรุ เวลาทำการ ทุกวัน 17.00-01.00 น. โทร.081-805-7759  
 

ครั้งต่อไปเราจะพาไปทัวร์ย่านไหนอีกในกรุงเทพฯ อย่าลืมติดตามกันนะ :)