เคยถามตัวเองและโลกใบนี้มั้ยว่าทำไมเราต้องทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ และใครเป็นคนกำหนด บางทีการทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์อาจจะดีต่อทุกคนมากกว่า เพราะนอกจากจะทำให้เรามีเวลาให้กับอย่างอื่นในชีวิตมากขึ้น มันอาจจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้นอีกด้วย
ชั่วโมงการทำงานที่มากขึ้นไม่ได้แปลว่าคุณสามารถทำงานได้มากกว่าเสมอไป ลองนึกภาพว่าคุณกำลังคำนวนตัวเลขเพื่อปิดงบค่าใช้จ่ายประจำปี คุณใช้เวลา 6 ชั่วโมงทำจนถึง 4 ทุ่มที่ออฟฟิศ ขณะที่มันอาจจะใช้เวลาแค่ 2-3 ในการทำสิ่งเดียวกันในเช้าวันรุ่งขึ้นที่สมองของคุณได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ และโอกาสที่ข้อผิดพลาดจะเกิดขึ้นก็น้อยลงตามไปด้วย
ในบทความชื่อ "Is full-time work bad for our brains?" ของบีบีซี Georgina Kenyon ได้นำเสนอผลการศึกษาของ Colin McKenzie อาจารย์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Keio University ในโตเกียว ที่สรุปผลว่าสมองของคนเราจะทำงานได้มีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อถูกใช้ในการทำงาน 25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และการทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานหลายๆ ชั่วโมงจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบประมวลผลความคิดในสมอง และนั่นคือสิ่งที่มนุษย์ออฟฟิศในกรุงเทพฯ ที่เข้างาน 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นหลายคนกำลังเผชิญอยู่
ในขณะที่หลายๆ คนเติมกาแฟ อัดบุหรี่ หรืองีบซักครู่ก่อนจะกลับมาปั่นงานกันต่อถึงดึกดื่น สิ่งที่พวกเขาทำอยู่คือการฝืนธรรมชาติของสมองและร่างกาย
นอกจากการมีเวลาว่างมากขึ้นช่วยให้มนุษย์ออฟฟิศอย่างเราได้สร้างสรรค์อะไรในโลกใบนี้มากกว่า spreadsheet สวยๆ ใน Excel แล้ว ในระยะยาวมันยังลดการเจ็บป่วยและความเครียดจากการงานที่จะส่งผลดีต่อบริษัทอีกด้วย
ถ้าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จริงในบริษัททั่วประเทศไทย มันจะช่วยลดปัญหารถติด มลพิษทางอากาศ และลดการใช้พลังงานได้มาก ส่วนธุรกิจภาคบริการก็สามารถต้อนรับลูกค้าช่วงสุดสัปดาห์ให้มากขึ้น
ดูเหมือนการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์จะเป็นความคิดที่ไม่เลวเลย ที่เหลือก็แค่เอาเรื่องนี้เข้าที่ประชุมวันพรุ่งนี้