
เวิ้งโบราณในตอนสายวันเสาร์ (21 พ.ค.) เงียบสงบมาก เรามุ่งตรงขึ้นชั้นดาดฟ้าเพื่อ ไปยัง Olive Creative Laboratory (ถ้าใครเป็นนักดื่ม ตั้งอยู่ชั้นเดียวกับบ้านเพื่อนไง!) สตูดิโอสีขาวขนาดย่อมจุคนได้ไม่มากนัก พอเหมาะกับที่ทีมงานตั้งเพดานนักเรียนไว้แค่ 12 คนต่อคลาส คุณครูจะดูแลได้อย่างทั่วถึง ภายในห้องบรรยากาศสบายๆ มีน้ำดื่มจัดเตรียมไว้ให้พร้อม แถมมีลูกอมให้เติมความหวานอีกแหนะ คำเตือนอย่างเดียวที่เรามีให้คือแอร์ทรงพลังมาก ถ้ารู้ตัวว่าไม่ใช่สปีชีส์เดียวกับเพนกวินก็พกเสื้อคลุมไปด้วยก็ดี นอกจากนั้นแล้วก็วางใจได้ว่าไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลย เพราะคุณครูเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้แล้วเรียบร้อย


เพื่อนร่วมเวิร์กช็อปของเราหลากหลายมาก ถ้าไม่นับสองสาวที่เรียนจบทางด้านศิลปะมา (แต่ทั้งคู่ก็ไม่เคยทำงานคราฟต์กระดาษนะ) ก็ไม่มีใครมีพื้นฐานศิลปะจริงจังนอกจากวิชาศิลปะในห้องเรียนสมัยมัธยมเลย เราเจอทั้งข้าราชการสาวสวยที่ร่วมเกือบทุกเวิร์กช็อปของ Olive เจอคุณสัตวแพทย์ที่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน มาร์เก็ตติ้งไฟแรงที่มีแพชชั่นด้านงานคราฟต์ ไปจนถึงเจ้าของสำนักพิมพ์อารมณ์ดีที่มาแปะมือเป็นนิวบี้เหมือนกันกับเรา เรียกได้ว่าทั้งคลาสมีแต่นิวบี้!
Work in Progress 

คุณครู Wankan เริ่มต้นอธิบายข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการพับและตัดกระดาษ 3 มิติให้เราฟังทุกขั้นตอน ตั้งแต่การดูแบบ ไปจนถึงการเปลี่ยนมีดคัตเตอร์เลยทีเดียว ความดีงามคือคุณครูใจดีคิดแทนเราแล้วทุกอย่างและเตรียมเทมเพลตมาให้เป็นที่เรียบร้อย ไซส์แต่ละชิ้นส่วนก็ประกอบกันได้พอดิบพอดี ไม่ต้องมาวัดเองให้ปวดหัว เราแค่กรีด พับ แปะ ไปตามเรื่องตามราว แต่ถึงอย่างนั้นถ้าได้ลองลงมือทำด้วยตัวเองก็จะมีความเข้าใจเรื่องเหลี่ยมมุม ถ้าอยากจะไปลองดีไซน์แบบ Paper Sculpture ของตัวเองก็ได้เหมือนกันนะ



ระหว่างทำครูวันก็จะเดินไปรอบๆ และคอยแนะนำเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ให้กับเรา ครูย้ำเสมอว่าให้ใช้อุปกรณ์ที่ตัวเองถนัด แต่ก็มีอุปกรณ์หน้าแปลกอย่างคัตเตอร์ปากกาที่ครูเชียร์ให้เราลองใช้ดู ซึ่งเราก็พยายามใช้สลับกันไป เพราะเทมเพลตใหญ่เหมาะกับการใช้คัตเตอร์ปกติ แต่ถ้าเทมเพลตไหนละเอียดมากๆ เราจะใช้คัตเตอร์ปากกา ผลสุดท้ายคือใช้คัตเตอร์ปากกาคล่องขึ้นมาก ติดใจจนไปซื้อมาไว้ใช้ทำต่อเองแล้วเรียบร้อย! (ถ้าเอาแบบคุณภาพพอใช้สำหรับนิวบี้ เราแนะนำไดโซะ 60 บาทเลยจ้า)

ช่วงแรกๆ ห้องเงียบมาก แต่พอทุกคนเริ่มจับทางได้ก็หาเรื่องมาเมาท์กันไม่หยุดหย่อน ถึงจะเป็นคลาสเล็กๆ แต่ห้องเราก็อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะตลอดทั้งวัน คลอด้วยเสียงเพลงเพราะๆ ที่เรารีเควสได้ด้วย (งานขุ่นแม่บีก็มา เรานี้แทบจะวางกาวแล้วลุกขึ้นโชว์พลังเสียง)
เราแอบท้อบ้างนิดหน่อยตอนที่เห็นคนอื่นทำเร็วมาก แต่เราก็ค่อยๆ ทำตามจังหวะของตัวเองไป ที่สำคัญเราไม่จำเป็นต้องทำตามแบบเป๊ะๆ ด้วยนะ ถ้าอยากครีเอทอะไรก็ลุยได้เต็มที่เลย ตอนท้ายๆ ที่เริ่มเหนื่อยเราจึงแอบอู้โดยการตัดเม็ดสตรอเบอร์รี่ให้ใหญ่กว่าปกตินิดนึง ฮ่าๆ แถมหันไปแท็กทีมกับอีกสาว Soimilk ช่วยกันรุมเค้กชิ้นเดียวกัน ผลสุดท้ายจึงได้เค้กกันมา 3 ชิ้นถ้วน

เวิร์กช็อปนี้ไม่โหดร้ายกับนิวบี้อย่างเรามากนัก เพราะใช้ทักษะที่ใครๆ ก็ทำได้อยู่แล้วอย่างการตัด กรีด พับ แปะ แต่คุณครูก็เพิ่มรายละเอียดบางส่วน เช่น ซอสลายยึกยือและผลสตรอเบอร์รี่ 3 มิติ มาท้าทายความสามารถเบาๆ พอให้ชาวนิวบี้ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่สำคัญพอจบเวิร์กช็อปเราใช้คัตเตอร์ปากกาคล่องขึ้นมากๆ ต้องขอบคุณครูวันที่เชียร์ให้ลองใช้ดู ถึงแม้จะเป็นเพียงเวิร์กช็อปหนึ่งคลาส แต่ก็เป็นการก้าวออกจาก Comfort Zone ที่ดีอยู่เหมือนกันนะ
รู้ตัวเลยว่าวันนี้ไม่แตะมือถือได้นานเป็นประวัติการณ์ อันที่จริงไม่คิดเลยด้วยซ้ำว่าต้องเช็กมือถือ (นอกจากตอนทำเสร็จแล้วและอยากถ่ายรูปเค้กอวดคนอื่นนั่นแหละ) รู้สึกมีสมาธิขึ้นมาก แถมหัวโล่งไปอีกเพราะระหว่างทำก็ลืมความกังวลเรื่องงานเรื่องนู่นนี่นั่นไปเสียสนิท

รู้ตัวอีกทีก็หมดวันแล้ว ก่อนแยกย้ายกัน คุณครูบรีฟวิธีประกอบเค้กที่เรายังทำไม่เสร็จให้ฟัง แล้วก็ให้เทมเพลตกลับบ้านมาเต็มเลย เราก็เลยไปชวนพี่ชวนน้องมานั่งประกอบเค้กสิจะรออะไร สนุกสนานกันใหญ่ แม้จะบ่นโอดโอยเรื่องความละเอียดของเทมเพลตไปบ้าง แต่ก็ได้ใช้เวลาทำกิจกรรมใหม่ๆ ร่วมกัน เดี๋ยวเราจะเอาไปเผยแพร่ในออฟฟิศด้วย รับรองว่าก่อนหมดสัปดาห์นี้ต้องได้เค้กครบปอนด์แน่ๆ

จริงๆ แล้วก็คงเราสามารถลองทำ Paper Sculpture เองที่บ้านได้นะ ลองเสิร์ชเทมเพลตฟรีในเน็ตก็คงมี แต่เราคงแอบอู้ไปนอนเล่นหรือทำอย่างอื่นแน่เลย และสาวเลซี่อย่างเราก็ขี้เกียจเตรียมอุปกรณ์เองด้วย ดังนั้นการมาร่วมเวิร์กช็อปจึงเหมาะกับเรามากกว่า มีคุณครูคอยช่วยตลอด แล้วยังมีของแถมเป็นบทสนทนาดีๆ กับเพื่อนใหม่ๆ ด้วยแหนะ
ดังนั้นถ้าถามว่าไปเวิร์กช็อป Paper Sculpture กับคุณครู Wankan และ Olive Creative Laboratory รอบนี้คุ้มมั้ย ตอบได้คำเดียวว่ามาก! ทำเค้กรอบนี้ไม่ได้ชิมซักคำ (แหงสิ) แคลเลอรี่อาจไม่พุ่ง แต่ความหวานมาเต็ม :-)

