เราเชื่อว่าถนนเส้นสุขุมวิท 77 หรือที่เราเรียกกันว่าซอยอ่อนนุชนั้นเป็นอีกถนนเส้นใหญ่ที่น่าจับตามองมากๆ ด้วยความลงตัวของร้านอาหาร โครงการใหม่ๆ co-working space สำหรับคนรุ่นใหม่ สตรีทฟู้ดชื่อดัง และคาเฟ่ที่ไม่เหมือนใคร เราว่าต้องจัดเวลาซักวันไปทัวร์แล้วล่ะ เตรียมกระโดดขึ้นรถสองแถวแล้วลุยกันเลย!
Ageha Music & Cafe
สำหรับแฟนๆ ดนตรีนอกกระแสอาจจะรุ้จัก Brownstone Studio ซึ่งเป็นทั้งห้องซ้อมดนตรี อาร์ตแกลเลอรี่เล็กๆ และสถานที่จัดอีเวนต์คอนเสิร์ตตรงซอย 25 ตอนนี้ได้มีคาเฟ่ไซส์กระทัดรัดมาเปิดตัวขึ้นในนาม Ageha Cafe โดยคุณฮอน มือกีตาร์จากวง Hope the Flowers นั้นมาดูแลร้านด้วยความตั้งใจที่จะสร้างคอมมูนิตี้คนรักเสียงเพลง ภายในคาเฟ่มีซีดีจากค่ายดนตรีนอกกระแส และวงดนตรีอิสระให้เลือกอยู่บนผนัง มีการตกแต่งด้วยโปสเตอร์วงดนตรี และมุมเล็กๆ ที่ขายของจุกจิก เช่น กระเป๋าผ้า กล่องใส่ฟิล์ม และกระเป๋าตังค์หนัง
เมนูของที่นี่เน้นไปทางร้านเครื่องดื่มโฮมเมดซะมากกว่า อย่างเช่นเมนู signature ของร้านที่อยากแนะนำ Brownstrone ประกอบไปด้วยน้ำแข็งดาร์กช็อกโกแลต ท็อปด้วยอเมริกาโนรสเข้ม (100 บาท) และ Black Rose กาแฟ single-origin แบบชงด้วยน้ำเย็น (cold brew) ในวันที่อากาศร้อนเราแนะนำให้ลองเมนู Fruit-Infused Ice เครื่องดื่มสไปร์ท์เสิร์ฟพร้อมกับน้ำแข็งผนึกผลไม้ มะนาว และใบมินต์ (มีสูตรเต็มๆ อยู่ที่นี่เลย) อีกเมนูน่ารักของที่นี่คือกาแฟดริปเวียดนาม เสิร์ฟในรูปแบบเก๋ๆ (55 บาท) ถ้ารู้สึกหวิวๆ ก็สามารถสั่งขนมปัง bruschetta มีท็อปปิ้งให้เลือกหลายแบบ (60 บาท/3 ชิ้น)
ซ.อ่อนนุช 25 เวลาทำการ จันทร์-อาทิตย์ (ปิดวันพฤหัส) 10:00-22:00 น. โทร. 061-616-9694
Magpie
ย่านอ่อนนุชดูน่าสนุกขึ้นมาอีกครั้งเมื่อ Magpie คาเฟ่ของอู้-นพปฎล พหลโยธิน นักออกแบบจากอาณาจักร Jim Thompson ได้เปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนเมื่อไม่นานมานี้ แน่นอนว่าคาเฟ่ของคุณอู้ไม่ใช่แนวมินิมอลแมสๆ แต่เต็มไปด้วยสีสันและเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากันอย่างดี เราชอบชั้นล่างธีมสวนที่เต็มไปด้วยต้นเฟิร์นสีเขียวสุดสดชื่น โต๊ะหินอ่อนสีขาวตัดกับโซฟาสีเขียวเข้ม และผนังสีขาว-เขียวอ่อนอีกเฉด ดูรวมๆ แล้วสบายตาเหลือเกิน
ร้านนี้เสิร์ฟเมนูอาหารทานง่ายตลอดทั้งวัน อาทิ สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า (195 บาท) ข้าวซอยพาสต้า (195 บาท) แซนวิช สลัด และซุป ไฮไลท์เด็ดคือพายขอบกรุบกรอบ (175 บาท) ที่มีทั้งไส้ไก่กับเนยฮอกไกโด และเนื้อหมักเบียร์ซัปโปโร ส่วนขนมหวานโฮมเมดอย่างบานอฟฟี่ และทาร์ตหน้าคว่ำ (Tarte Tatin) ก็น่าลองไม่แพ้กัน
กาแฟเอสเปรสโซ (เริ่มต้น 75 บาท) ใช้เมล็ดแบรนด์ Pacamara จากเชียงใหม่ ชาสมุนไพรที่ร้านก็เบลนด์เอง แต่ถ้าไม่ชอบกาเฟอีนจะหันมาดื่มสมูทตี้ (110-120 บาท) แทนก็ไม่ผิดนะ
914 ซ.อ่อนนุช 28 เวลาทำการ ทุกวัน 08:00-20:00 น. โทร. 02-185-3258 BTS อ่อนนุช
Habito Mall
บางคนอาจจะเคยรู้จัก T77 ในฐานะซอยลัดระหว่างพระโขนง-อ่อนนุช แต่ Habito ก้าวขึ้นมาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่จัดงานดีๆ อยู่เรื่อยๆ รวมถึงร้านอาหารหลากหลายเชื้อชาติที่เริ่มเปิดให้บริการแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Papa Shabu Farm ร้านชาบูชื่อดังจากจากทาวน์ อิน ทาวน์และ David’s Bakery คาเฟ่ที่เชี่ยวชาญด้านเมนูคุ๊กกี้และมิล์คเชคสุดอลังการงานสร้าง
ถ้าเดินขึ้นไปที่ชั้นสองจะพบกับร้านอาหารเวียดนาม Muine และร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลี ChoiChoi Chicken แต่จุดที่เราอยากจะไฮไลท์คือ Hubba-To บนชั้น 3 ซึ่งเป็น co-working space ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการจริงๆ
ซ.สุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) เวลาทำการ ทุกวัน 11:00-22.00 น.
ถ้าอาศัยอยู่ในซอยอ่อนนุชจะสังเกตได้ว่ามีโฮสเทลเล็กๆ Trica Hostel นั้นได้ผ่านการรีโนเวทมาจากอาคารห้องแถวเก่าๆ จนตอนนี้เปิดบริการเป็นห้องพักรวม และห้องไพรเวทสไตล์มินิมอลเหมือนอยู่ในญี่ปุ่นไม่มีผิดเพี้ยน เราชอบบรรยากาศบริเวณคาเฟ่ด้านล่าง เหมาะสำหรับไปนั่งอ่านหนังสือชิลๆ ได้ตลอดวันโดยไม่ต้องเป็นแย่งกับใคร หรือจะไปนั่งทำงานที่ co-working space บนบีนแบคนุ่มๆ ที่ชั้นลอยก็สบายเว่อร์
แถมยังสามารถสั่งเซ็ตไก่คาราเกะอร่อยๆ สไตล์ฟุคุโอกะ มาทานให้อิ่มท้องเข้ากับบรรยากาศ สามารถโทรสั่งให้ทางโฮสเทลจัดส่งได้ด้วยนะ ถ้าไปแฮงค์เอาท์ถึงดึกก็ยังมีค็อกเทลราคาเบาๆ เริ่มต้นที่ 120 บาท ให้ได้ดื่มกันถึงเที่ยงคืน สำหรับคนที่อยากลองมาพักแบบ staycation ห้องพักราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 450 บาท/คืน
252/1-2 ซ.สุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) โทร. 02-044-2119 trica-hostel.com
ภัตตาคารเปียงยาง
บอกตามตรงว่าร้านอาหารเกาหลีเหนือมันไม่ได้หาได้ง่ายๆ แต่พบได้ในซอยอ่อนนุช โดยนอกเหนือจากเมนูเกาหลีทั่วไปที่เราเจอกันอย่างกิมจิ บิบิมบับและข้าวผัดกิมจิแล้ว เมนูหลักของทางร้านนั้นจะเน้นไปทางปิ้งย่าง โดยสามารถสั่งมาเป็นบุฟเฟต์หมู เนื้อ ไก่ เป็ดหมัก และซีฟู้ด ราคา 299 บาท/ท่าน โดยทางร้านจะคอยบริการปิ้งย่างให้ถึงโต๊ะเลย
บรรยากาศในร้านดูเบสิคไม่มีอะไร แต่แอบได้รังสีเกาหลีเหนือมาแต่ไกล ที่สำคัญเค้าห้ามถ่ายรูปภายในร้านนะเออ เพราะอะไรเราก็ยังไม่ได้คำตอบอย่างแน่ชัด ถ้าใครมีทักษะพูดฮันกุกได้หน่อยก็จะดีนะ เพราะทางร้านมีเจ้าของเป็นคนเกาหลีแท้ๆ เลยจ้า
482 ซ.อ่อนนุช 8 เวลาทำการ 11:00-15:00 น. และ 17:00-22:00 น. โทร. 02-331-1305
จริงๆ แล้วการเดินทางในซอยอ่อนนุชทั้งเส้นนั้นค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว เพราะมีเจ้ารถสองแถวเนี่ยแหละที่ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาแค่พี่วินมอเตอร์ไซค์ แต่ถ้าอยากผันมาปั่นจักรยานก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลย เราเลยอยากแนะนำให้รู้จักกับร้านบริเวณหัวมุมอ่อนนุชซอย 9 ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านจักรยาน Cycam
เมื่อเดินเข้าไปข้างในแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าเป็นร้านที่จริงจังมาก มีการออกแบบสไตล์อินดัสเตรียลลอฟท์ ทางร้านเน้นจักรยานนำเข้าจากแบรนด์ดังในเยอรมันและอิตาลี ไม่ว่าจะเป็น Jamis, Litespeed, Rotwild และ Sarto มีทั้งประเภทจักรยานแข่ง เสือหมอบ เสือภูเขา จักรยานสำหรับ triathlon และทัวร์ริ่งที่น่าจะเหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันมากที่สุด ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 24,000 บาท โดยทางร้านมีมุมบริการซ่อมแซมเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ทางร้านยังมีอุปกรณ์เสริม ชุดเล่นกีฬา รองเท้าผ้าใบและแก็ตเจ็ตสำหรับนักปั่นโดยเฉพาะของแบรนด์ MOA, Vittoria, Pedro’s และ Ergon แต่สำหรับนิวบี้อย่างเราก็แค่ไปเดินชมจักรยานรุ่นต่างๆ ไว้เป็นแรงบันดาลใจ เช็กราคาและรายละเอียดอื่นๆ ได้ล่วงหน้าทางเว็บไซต์เลย
709/1-3 ซ.อ่อนนุช 7 เวลาทำการ อังคาร-อาทิตย์ 11:00-19:00 น. โทร. 02-331-3169
มุกเต้าทึง
แฟนๆ ของสตรีทฟู้ดในซอย 38 นั้นก็ไม่ต้องเศร้ากันไปนะ เพราะหนึ่งในร้านของหวานที่ทุกคนชื่นชอบอย่างมุกเต้าทึงได้ย้ายมาเปิดสาขาที่ซอยอ่อนนุชนี่เอง! โดยมีเมนูที่หลากหลายกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำไป ไม่ว่าจะเป็นเต้าทึงสูตรเด็ด (30 บาท) ไอศกรีมกะทิไข่แข็ง (ติมไข่แข็ง) ไอศกรีมทอด และน้ำแข็งใสเย็นชื่นใจ เดี๋ยวนี้ยิ่งเป็นเมนูที่หาทานยากขึ้นทุกวันแล้วนะ
ระหว่างวันสามารถนั่งภายในร้านได้ถ้าอยากจะหลบแดด แต่ขอบอกว่าช่วงกลางคืนจะเป็นช่วงเวลาพีคสุด โดยทางร้านถึงกับต้องเสริมโต๊ะด้านหน้าร้านเลยทีเดียว ทางร้านเปิดบริการถึงเที่ยงคืน เหมาะที่จะแวะไปเอ็นจอยขนมอร่อยๆ ในบรรยากาศที่ครึกครื้นกับฝูงเพื่อน
ซ.อ่อนนุช 9 เวลาทำการ ทุกวัน 17:00-00:00 น. โทร. 083-700-0787
เคี้ยงอร่อย
จะให้ไม่กล่าวถึงร้านเคี้ยงอร่อยก็คงจะไม่ได้ เพราะถึงแม้จะเป็นร้านอาหารตามสั่ง แต่กลับฮอตฮิตซะจนมีลูกค้าเยอะตลอดเวลา โดยเจ้าของร้านนั้นมีชื่อเสียงเรื่องฝีมือปรุงอาหารจีนสไตล์ไทยจากร้านเคี้ยงเยาวราชเจ้าเก่า
ส่วนสาขานี้เป็นร้านลูกที่เอาดีไปซะทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นข้าวแกง ข้าวขาหมู แกงกะหรี่ แกงพะแนง ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าและผัดซีอิ๊ว แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์ที่เราว่าไม่ควรพลาด ต้องยกให้เมนูหมูทอดโบราณ ร้านห้องแถวในซอยอ่อนนุชแห่งนี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2529 แล้วนะ แต่การันตีรสชาติยังดีอยู่เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ชาวอ่อนนุชเค้ารับประกัน
650 สุขุมวิท 77 เวลาทำการ จันทร์-อาทิตย์ (ปิดวันพุธ) 08:00-03:00 น. โทร. 02-332-6971
Loft77
บูติกโฮสเทลแห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าซอย 33 เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสเปซน่ารักๆ ที่ขึ้นมาก่อนที่จะเกิดโครงการต่างๆ ในซอยสุขุมวิท 77 มีดีไซน์น่ารักสบายตาด้วยโทนสีไม้อ่อน ประกอบไปด้วยห้องพักทั้งหมด 45 ห้อง โดยเป็นห้องส่วนตัวทั้งหมดแต่มีดีไซน์ที่ต่างกันไปตาม 5 ภูมิภาคของประเทศไทย ราคาเริ่มต้นที่ 750 บาท/คืน
บริเวณชั้นล่างจะเป็นโซนคาเฟ่ง่ายๆ ที่พวกเราสามารถไปนั่งเล่นหรือนั่งทำงานกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการ Wi-Fi และเมนูเครื่องดื่มทั่วไป เบียร์ และไอศกรีมโฮมเมดให้ได้อร่อยกันด้วยนะ
1707 ซ.อ่อนนุช 33 โทร. 02-331-2334-6 www.loft77.com
Haus of Jewelry Studio
เลยลึกเข้าไปถึงซอย 66 จะมีสตูดิโอแฟชั่นเก๋ๆ ในชื่อ Haus of Jewelry Studio ซึ่งเป็นสตูดิโอสุดเอ็กซ์คลูซีฟของคุณอิงค์-ยลวารี สัตยนาวิน เจ้าของแบรนด์ Yolwaree โดยมีการรีโนเวทจากอาคารเก่าจนกลายเป็นสตูดิโอแสดงเครื่องประดับและเฟอร์นิเจอร์ของแบรนด์จากไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Aclaire, Vickisarge, Ravipa และ Nadlida เราชอบที่ทางร้านมีการผลัดเปลี่ยนธีมของร้านในแต่ละช่วง ไม่ว่าจะเป็นธีมซาฟารี หรือจะเป็น Pink Passion สไตล์โมเดิร์นป๊อบซึ่งเป็นดีไซน์ของเฟส 2 กับบรรยากาศสีชมพูและสวนสวยใหม่ที่จัดขึ้นสำหรับช่วงนี้ สามารถจองสตูดิโอสำหรับถ่ายแฟชั่นได้ด้วยนะถ้ากำลังตามหาโลเคชั่นใหม่ๆ
และ Haus of Jewelry Studio ยังได้ปล่อยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งของแบรนด์เซ็ตแรก ภายในชื่อ HOJ Studio Series I โดยทำจากไม้และหินอ่อนทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็นที่เขี่ยบุหรี่ โต๊ะกาแฟ กระจก โต๊ะทำงาน และเอาท์ดอร์เฟอร์นิเจอร์ เน้นงานใช้สีขาว ดำ เทาและส้ม เพื่อให้เข้ากับธีมโดยเฉพาะ ส่วนมากที่นี่จะเปิดให้ชมตามวันที่มีกิจกรรมพิเศษนะหรือสามารถติดต่อเพื่อชมผลงานในวันอื่นๆ ได้ที่ 091-771-4287
443 ซ.อ่อนนุช 66 เวลาทำการ พุธ-อาทิตย์ 11:00-21:00น. โทร. 092-926-5552 www.hausofjewelry.com
ลำดวนเนื้อย่าง
เอาใจคนชอบเนื้อย่างกันบ้าง แถวอ่อนนุชมีร้านลำดวนเนื้อย่าง อยู่ในซอยอ่อนนุช 52 ที่ต้องลองเลยคือเนื้อย่างกระทะร้อน (ชุดละ 230 บาท) เป็นเนื้อชิ้นเล็กเสิร์ฟบนเตาและกระทะร้อนๆ ให้เราได้ปิ้งกันสักแป๊บก่อนได้อร่อยกัน นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอีสาน อาทิ ต้มแซ่บ ส้มตำ ให้เลือกอีกหลายแบบเลย
ซ.อ่อนนุช 52 เวลาทำการ ทุกวัน 12:00-23:00 น. โทร. 081-692-7074
Best Beef
อีกหนึ่งพิกัดที่ใครเลิกงานแล้วอยากปาร์ตี้ปิ้งย่างก็ไปได้ง่ายๆ ไม่ต้องนั่งรถสองแถวเข้าซอยให้ยุ่งยาก Best Beef เป็นบุฟเฟต์โคขุน ซีฟู้ด และเบียร์สด ตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท เดินจาก BTS อ่อนนุชไม่ถึง 5 นาทีก็ได้กินแล้ว บุฟเฟต์มีให้เลือกตั้งแต่ท่านละ 269 บาทไปจนถึง 439 บาทเลย
ถ.สุขุมวิท เวลาทำการ ทุกวัน 16:00-00:00 น. โทร.02-742-9416 BTS อ่อนนุช
Sapporo Ramen Don Chan
ร้านราเมงที่อยู่ในซอยเล็กๆ ตรงข้ามกับ Big C อ่อนนุช หน้าร้านจะไม่มีป้ายชื่อร้าน แต่จะมีโคมสีแดงแบบญี่ปุ่นที่ทำให้เราสะดุดตา ใครมาร้านนี้เราแนะนำ Shio ramen ราเมงซุปเกลือร้อนๆ พร้อมหมูชาชูที่นุ่มแทบละลายในปาก (ราคาเริ่มต้น 100 บาท) และมันทอดโคโรเกะ (70 บาท)
233/8, ถ.สุขุมวิท 77 เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 17:00-00:00 น., เสาร์ 11:00-14:30 น. และ 17:00-00:00 น., อาทิตย์ 11:00-22:30 น. โทร. 02-716-2929
