Wallflowers (สุขุมวิท 26)
หลายคนอาจจะเคยได้ยินถึงร้านจัดดอกไม้ Wallflowers Shop ในซอย 26 ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของ Casa Lapin X26 ถ้าใครถูกใจบรรยากาศชวนฝันในเรือนกระจกไซส์กระทัดรัด และดอกไม้ที่ดูมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่นๆ ตอนนี้ได้มีการขยับขยายมาเปิดสาขาใหม่ ในสเปซที่กว้างขวางขึ้นในใจกลางเมืองเก่า
“ที่นี่เหมือนเป็นแค่ความชอบ - เราชอบสภาพแวดล้อมของย่านนี้มาก สถานที่มันสวย ตึกอาคารแถวนี้มีอายุเป็นร้อยปีทั้งนั้น”
ใครคุ้นเคยกับย่านซอยนานา Oneday Wallflowers Oldtown ก็คือตึกห้องแถวที่เคยถูกเช่าเป็นร้านหมักชา Pure Luck นั่นเอง ทันทีที่เหยียบเข้าไปในร้าน เราได้กลิ่นหอมๆ จากเหล่ามวลแมกไม้ที่ทีมงานกำลังจัดตามออร์เดอร์ล่าสุดที่เข้ามา ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่สงบ สบาย และไม่เหมือนอยู่ในความวุ่นวายของกรุงเทพฯ ด้านในมีกลิ่นอายความเป็นกระท่อมในชนบท ผสมอินดัสเตรียล “ข้าวของเครื่องใช้ข้างในจะเป็นสไตล์อิงลิชคอทเทจ มีของเก่า มีวัสดุธรรมชาติ งานคราฟต์ งานเหล็กมาสผม บวกกับความเป็นโรงนาด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ มี skylight (หลังคากระจก) เพื่อรับแสงธรรมชาติเข้ามาข้างใน”
ร้านสามชั้นแห่งนี้เป็นโปรเจคของสถาปนิกมากความสามารถอย่างคุณลักษณ์ ณัฐพัชร สุริยะกำพล ผู้อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จของคาเฟ่ชือดัง Casa Lapin จนตอนนี้ได้ไปเปิดอีกหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ (และอีกสาขาบนเกาะสมุยอีกด้วย!) สเปซชั้นล่างนั้นเปิดเป็นร้านดอกไม้ มีบริการจัดดอกไม้แบบช่อและตะกร้า พวงดอกไม้ และรับจัดทำดอกไม้ใส่กรอบ โดยมีบริการจัดส่งให้ถึงที่

"เราเน้นดอกไม้ที่มีสไตล์การจัดแบบสบายๆ อาจจะดูเหมือนจัดโดยผู้ชายอีกแบบนึง เพราะเราคิดว่าดอกไม้มีความสวยอยู่แล้ว ไม่ต้องไปประดิดประดอยกับดอกไม้มาก สไตล์ของเราจะเป็นคราฟต์มากกว่า"
เรื่องการเก็บดอกไม้ ทางร้านได้ออกแบบห้องเย็นอุณหภูมิ 5 องศา ขนาด 4 x 8 ตารางเมตร ในบริเวณชั้นล่าง ดังนั้นพวกเรามั่นใจได้ว่าถึงแม้อาคารจะเก่าขนาดไหน แต่ดอกไม้ที่ได้รับจะสดใหม่แน่นอน นอกจากนี้ทางทีมงานยังนำเข้าดอกไม้ด้วยตัวเองกว่า 40 ชนิดในแต่ละล็อต จัดทำโดยทีมงานจากหลากหลายวงการ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจที่ดอกไม้ทุกช่อจะไม่เหมือนของที่ไหนๆ มีการออกแบบมาได้อย่างลงตัว
"มันไม่สามารถทำของใหม่ ตึกใหม่ให้มันเป็นแบบนี้ได้"


การที่ต้องรีโนเวทอาคารที่เก่าแก่ขนาดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การออกแบบซับซ้อนขึ้น นอกเหนือจากเส้นการเดินทางที่ค่อนข้างแคบ ลำบากต่อการก่อสร้างแล้ว รอบๆ ด้านก็เป็นบ้านพักอาศัย เพราะไม่ว่าจะออกแบบดีไซน์อย่างไรก็ต้องคำนึงถึงโครงสร้างเก่า เพราะตัวตึกนั้นไม่ใช่อาคารใหญ่โต สเปซจริงๆ ค่อนข้างจะน้อยด้วยซ้ำ เพราะเดิมทีที่นี่เป็นเพียงแค่บ้านพักของครอบครัวนึงเท่านั้น
“แต่งานรีโนเวทมันมีข้อดีอยู่อย่างนึงตรงที่มันเป็นอารมณ์เก่า material เก่า มันเป็นอะไรที่ผ่านระยะเวลามานาน อย่างปูน ไม้ ผนัง มันเป็นอะไรที่ผ่านระยะเวลามา ตากแดด ตากฝนมา มันไม่สามารถทำของใหม่ ตึกใหม่ให้มันเป็นแบบนี้ได้ เราอยากเก็บประตู บานหน้าต่าง เอาไว้ เพราะเราเห็นว่าอะไรก็ตามที่สวยอยู่แล้วเราก็เก็บไว้อย่างงั้น งานประมาณนี้ช่างสมัยใหม่ไม่สามารถทำได้”
“ตึกนี้มันสวยอยู่แล้ว มันไม่ต้องอยู่ในโลเคชั่นที่เหมาะสำหรับทำธุรกิจก็ได้ เราต้องการให้คนที่พยายามมาหาเรารู้สึกตกใจที่ได้เจออะไรแบบนี้”

แค่มองรอบๆ เราก็พอเดาได้ว่าที่แห่งนี้ต้องเป็นมากกว่าร้านจัดดอกไม้ที่รับออเดอร์ เมื่อเดินขึ้นไปชั้นสองจะพบกับสเปซสำหรับจัดเวิร์กเช็อป และเป็นทั้งออฟฟิศของทีมงานร้านดอกไม้ “ที่นี่เหมือนเป็นสตูดิโอดีไซน์ด้วย เพราะเราเปิดร้านดอกไม้อีกที่มา 2 ปีแล้ว หลายคนชอบในแนวทางของเรา เราเริ่มมีโปรดัคเป็นของตัวเอง มีกระถาง ตะกร้า ข้าวของเครื่องใช้ตกแต่งบ้าน แต่งสวน เราดีไซน์ของพวกนี้อยู่แล้ว มันเลยเป็นเหมือนโชว์รูมของพวกเรา”

“เราอยากปรับให้สถานที่เพิ่มฟังก์ชั่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราเจาะ skylight เพิ่มโครงสร้างบันไดใหม่ เจาะประตู ดังนั้นเราสามารถเปิดให้ใครก็ตามมาเช่าสถานที่ได้ จะถ่ายแบบแฟชั่น หรือจะจัดงานไพรเวทปาร์ตี้ก็ได้ เราแค่เก็บโต๊ะเก้าอี้เข้าไปก็สามารถจัดสเปซให้กลายเป็นที่จัดเวิร์กช็อปได้ เวลาต้องจัดอีเวนต์ใหญ่ๆ ทุกๆ ตารางเมตรก็จะถูกใช้งานทั้งหมด”
พี่ลักษณ์เล่าให้เราฟังว่าจริงๆ แล้วผู้รับเหมาหลักใช้เวลาทำร้านประมาณ 3 เดือน แต่ระยะเวลาในการรีโนเวทใช้เวลากว่า 8 เดือนเพราะที่เหลือเป็นการตกแต่ง ด้วยความที่ต้องการคอนเซ็ปต์เสมือนเราอยู่บ้าน ทำอะไรกันเอง พนักงานก็ทำเฟอร์นิเจอร์ ทำโต๊ะ ขึ้นมาเองที่นี่เลย อยากได้อะไรก็ชี้จุดแล้วก็บิวท์ขึ้นมาเลย
พอให้เปรียบเทียบกับ Casa Lapin พี่ลักษณ์กล่าวว่า “ที่นี่จะอยู่กับดิน อยู่กับฝุ่นได้ ฝนรั่วได้” เขาหัวเราะ “มันจะดิบกว่าร้านกาแฟเยอะ”


พูดถึงเวิร์กช็อปจัดดอกไม้ เรามีข่าวมาบอกด้วยว่าวันที่ 25 มิ.ย. นี้ทาง Oneday Wallflowers Old town จะจัดกิจกรรม “Floral and Fruity Table Scape” ตั้งแต่ 10:00น. เป็นต้นไปในบรรยากาศสวยๆ งานนี้รวมอาหารกลางวัน และของว่างจาก Karmakamet Diner ด้วยนะ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 8,000บาท/คน รวมอุปกรณ์และอาหารทั้งหมด
สำหรับชาวคราฟต์ที่สนใจ ทางร้านจะจัดเวิร์กช็อปจัดดอกไม้ทุกเดือนนะ โดยแต่ละเดือนจะมีธีมที่แตกต่างกันไป ยังไงถ้าสนใจก็อย่าลืมติดตามข่าวสารทาง Oneday Wallflowers เฟซบุ๊กเพจนะ!
Soimilk Says!
Why Renovate? -- “มันเป็นการท้าทายนะ เรามีพื้นที่แค่นี้ โครงสร้างมันก็บังคับอยู่แล้ว มันขึ้นอยู่กับเราที่จะจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างไรให้มันดู smooth ดูเป็นเรา ดูครบ ดูน่าสนใจ” -- ลักษณ์ ณัฐพัชร สุริยะกำพล
เห็นอย่างนี้แล้ว เราก็หวังว่าร้านเล็กๆ แห่งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนได้หันกลับมาสนใจการปรับเปลี่ยนสเปซที่มีอยู่ให้กลับมาสวยงามอีกครั้งนะ :)
31-33 ซอยนานา (วงเวียน 22) MRT หัวลำโพง โทร. 094-661-7997 เวลาทำการทุกวัน 10:00-20:00น.