Skip to main content
AdSense

จากชุมชนหลังป้อมมหากาฬ สู่สวนสาธารณะแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ

ลืมไปเลยว่าเคยเป็นชุมชนมาก่อน

จากชุมชนหลังป้อมมหากาฬ สู่สวนสาธารณะแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ
August 25, 2018 Bangkok time
หากใครแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน Soimilk บ่อย ๆ คงเห็นว่าเราเองก็ตามติดเรื่องราวหลังป้อมมหากาฬอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่รู้ข่าวว่าชุมชนแห่งนี้จะต้องย้ายออกไปตามแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2540) จนทำให้เราต้องแวะไปดูสีสันและความมีชีวิตชีวาเป็นครั้งสุดท้ายของชุมชนแห่งนี้ (อ่านเต็ม ๆ กันได้ที่ มาหากันที่มหากาฬ: ป้อมปราการด่านสุดท้ายของชุมชนเก่าย่านพระนคร) ก่อนที่เราจะกลับไปอีกครั้งเพื่อเห็นว่าทางกรุงเทพฯ ได้เข้าถางที่ดิน ปรับพื้นที่พร้อมสร้างสวนสาธารณะแล้วส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังมีชุมชนส่วนหนึ่งที่หลงเหลืออยู่พร้อมงานแสดงจาก Mahakarn Model (อ่านเต็ม ๆ กันได้ที่ บ้านที่หายไปกับสวนผักแห่งใหม่ที่ป้อมมหากาฬ) และสุดท้ายกับตำนานของชุมชนหลังป้อม กับพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต (อ่านเต็ม ๆ กันได้ที่ พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตแห่งแรกในกรุงเทพมหานคร และตำนานหน้าสุดท้ายของชุมชนป้อมมหากาฬ
 
มาวันนี้ชุมชนป้อมมหากาฬเหลือไว้เพียงภาพในลิ้นชักของความทรงจำ และพื้นที่หลังป้อม ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะ ปอด (เล็ก ๆ) แห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ อีกแห่งไปเรียบร้อยแล้ว
 
 
 
จากชุมชนที่สมัยก่อนเราจำได้เพียงว่าถ้าอยากซื้อดอกไม้ไฟให้มาแถวนี้ เพราะมีร้านจำหน่ายอยู่บริเวณตามประตูป้อมมหากาฬ หลังจากนั้นชุมชนก็พัฒนามาเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต จากความร่วมมือของคนในชุมชนและการช่วยเหลือและจัดการของสมาชิกกลุ่ม Mahakarn Model แต่สุดท้ายทางกรุงเทพมหานครก็ต้องรื้อชุมชนทั้งหมดตามที่ได้รับมอบหมายภารกิจจากรัฐบาล ว่ากันว่าการจัดการชุมชนนี้กินเวลายาวนานถึง 59 ปี เพราะภารกิจนี้ทางรัฐบาลมอบหมายให้จัดการตั้งแต่ปี 2502 แล้ว
 
แต่ก่อนมองผ่านป้อมเข้าไป จะเห็นภาพชุมชนเก่าแก่ และบ้านหลายหลังที่มีอายุนับร้อยปีอยู่หลังกำแพง
 
ปัจจุบันมองลอดเข้าไปจะเห็นเป็นสวนสาธารณะเล็ก ๆ ให้คนมาใช้งาน วิ่งจ๊อกกิง ออกกำลังกายแทน
 
 
ทั้งนี้ ภายในสวนสาธารณะยังคงเก็บเส้นถนนและตรอกต่าง ๆ ของชุมชนเอาไว้ให้เราระลึกถึงด้วย โดยในสวนจะมีถนนเส้นหลักตัดกลาง และมีตรอกแยกออกเป็น 3 ตรอก (ซึ่งตอนนี้คงเรียกว่าตรอกไม่ได้ เพราะเป็นแค่เส้นถนนราดยางโล่ง ๆ เฉย ๆ เลย) ได้แก่ตรอกถ่าน ตรอกที่อยู่ใกล้ป้อมมหากาฬมากที่สุด ถัดมาเป็นตรอกนกเขา และตรอกลิเก หรือตรอกพระยาเพชรปาณี ซึ่งชื่อตรอกที่ได้มาแต่ละตรอกนั้นล้วนเชื่อมโยงกับกิจกรรมในอดีต ที่เป็นหลักฐานได้ว่าภายในชุมชนมีคุณค่าและความทรงจำด้านประวัติศาสตร์อย่างไร
 
 
 
สวนสาธารณะแห่งนี้ยังคงเป็นพื้นที่โล่ง ๆ และสนามหญ้าเขียว ยังไม่มีต้นไม้กระจายให้ร่มเงามากนัก ถึงอย่างนั้นทางกรุงเทพฯ ก็ยังเก็บต้นโพธิ์และต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ในชุมชนเอาไว้ วันที่เราแวะเวียนไปเดินเล่นในสวน เป็นวันที่ฝนตกพรำ ๆ พอดี ลมที่พัดและฝนที่ชะทำเอาใบโพธิ์ร่วงหล่นอย่างต่อเนื่อง เป็นภาพที่สวยอยู่เหมือนกัน 
 
 
นอกจากนี้ยีงมีอาคารและท่าเรือพระยาญาณประกาศ อาคารหลังเล็ก ๆ สีขาวประตูเขียวที่ตั้งอยู่หลังป้อมมหากาฬ ติดกับคลองแสนแสบ ว่ากันว่าภายในอาคารจะเปิดเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของป้อมตามแนวคลองรอบกรุงทั้ง 14 ป้อมด้วย แต่ในวันที่เราไปถึงนั้น ภายในอาคารยังไม่มีงานนิทรรศการใด ๆ จัดแสดง มีเพียงอาคารและท่าน้ำโล่ง ๆ เท่านั้น น่าจะต้องรออีกสักพักล่ะ
 
 
สวนสาธารณะป้อมมหากาฬ เปิดทุกวัน 05:00 - 21:00 น. เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ติดกับถ. มหาไชย แขวงสำราญราษฏร์ เขตพระนคร
 
AdSense
AdSense
AdSense