Skip to main content

Soimilk Newbie Guide: ตวัดพู่กันสร้างสรรค์อักษรศิลป์กับ Sugar & Spice x writewithlove.bkk

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปร่วมเวิร์กช็อป Brush Calligraphy กับครูโบว์ นักวาดอักษรศิลป์คนเก่งแห่ง writewithlove.bkk ซึ่งจัดโดย Sugar & Spice เพื่อนที่รู้ใจของสาวๆ ที่รักงานคราฟต์ นิวบี้ที่เพิ่งหัดจับพู่กันอย่างเราจะทำได้ไหม ตามมาดูกันเลย!

Soimilk Newbie Guide: ตวัดพู่กันสร้างสรรค์อักษรศิลป์กับ Sugar & Spice x writewithlove.bkk
June 13, 2016 Bangkok time
Before
บ่ายวันหนึ่งขณะที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศอย่างขมักเขม้น จู่ๆ พี่แอดมินก็เดินถือจดหมายสีน้ำตาลซองเล็กมาให้ บนนั้นมีชื่อเราเขียนด้วยสีน้ำเป็นอักษรศิลป์สุดวิจิตร ตอนแรกเราก็งง นึกว่ามีคนแอบชอบส่งจดหมายมา (นี่มันยุคไหนแล้ว! ฮ่าๆ) แต่พอเปิดซองออกดูจึงถึงบางอ้อ เรามีนัดไปเวิร์กช็อป Brush Calligraphy กับ Sugar & Spice วันอาทิตย์นั่นเอง! 

ฟาสต์ฟอร์เวิร์ดไปตอนบ่ายวันอาทิตย์ เรากระโดดลงจาก BTS ที่สถานีเพลินจิต ก่อนเดินเข้าถนนวิทยุอีกประมาณ 10 นาทีเพื่อไปยัง Little Sunshine Cafe คาเฟ่ไซส์จิ๋วอันเป็นจุดนัดพบของคนรักงานคราฟต์ในวันนี้ พอเปิดประตูเข้าไปเราก็เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งน้ำตาล เครื่องเทศ และสารพันของกุ๊กกิ๊ก เดิมทีคาเฟ่นี้ก็ตกแต่งด้วยโทนสีพาสเทลสุดคิวต์อยู่แล้ว แต่วันนี้ภายในร้านคิวต์กว่าเดิมด้วยใบไม้ ดอกไม้แห้ง และธงสามเหลี่ยมที่ประดับประดาอยู่ทั่วร้าน แถมมีเสียงเพลงสากลเบาๆ เปิดคลอ ขนาดเราเองซึ่งปกติไม่ใช่สายหวาน ก็ยังอดเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศโดยรอบไม่ได้

เราได้คุยกับหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Sugar & Spice เธอบอกว่าแต่ละเวิร์กช็อปจะเปลี่ยนสถานที่จัดไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะไม่อยากลงทุนตั้งสตูดิโอถาวร แต่เป็นเพราะอยากเลือกสถานที่ให้เข้ากับมู้ดแอนด์โทนของเวิร์กช็อปนั้นๆ อย่างวันนี้ที่จัดเวิร์กช็อปอักษรศิลป์จากสีน้ำสุดละมุน ก็ต้องอยู่ในคาเฟ่มุ้งมิ้งแบบนี้แหละ!

Work In Progress

เรานั่งลงตรงที่นั่งที่มีป้ายชื่อเราติดอยู่ (รู้สึกเหมือนได้ไปปาร์ตี้น้ำชายามบ่ายกับเพื่อนสาวยังไงยังงั้น!) บนโต๊ะตรงหน้ามีเซ็ตอุปกรณ์อันประกอบไปด้วยกระดาษฝึกเขียน พู่กัน 2 ไซส์ (เบอร์ 2 กับ 5) และจานสี คุณครูโบว์เดินมาต้อนรับพร้อมให้เราเลือกสีที่อยากใช้ ลำพังถ้าต้องเลือกเองเราคงปวดหัว เพราะเซ็ตสีน้ำในกล่องที่ครูยื่นให้มีมากกว่า 30 เฉดสี แต่คุณครูก็ให้คำแนะนำว่า เราควรเลือกสีที่ส่งเสริมกัน เช่น สีน้ำเงิน-สีฟ้า, สีแดง-สีชมพู, สีเขียว-สีเหลือง ฯลฯ สุดท้ายเราเลือกใช้สี Violet ม่วงเข้ม และ Lavender ม่วงอ่อน มาประเดิมอักษรศิลป์ตัวแรกในชีวิต!

พอคนมาครบ คลาสก็เริ่มต้นทันที คุณครูโบว์ให้เราใช้พู่กันไซส์ใหญ่ (เบอร์ 5) ฝึกเขียน Up-stroke (เส้นขึ้น) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า Hairline เพราะตามหลักการแล้วเส้นลากขึ้นจะต้องบางเหมือนเส้นผมนั่นเอง เราเริ่มต้นอย่างเงอะงะ เส้นที่ลองเขียนบรรทัดแรกหนาปึ้ก (อยากบอกคุณครูว่าหนูเป็นคนผมเส้นใหญ่) แต่พอลองเขียนไปเรื่อยๆ เริ่มควบคุมน้ำหนักปลายพู่กันได้ดีขึ้น เส้นที่เขียนบรรทัดถัดมาก็บางและเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

พอเขียน Up-stroke จนหมดแผ่น ครูโบว์ก็ให้เราเปลี่ยนไปใช้พู่กันไซส์เล็ก (เบอร์ 2) ฝึกเขียน Down-stroke (เส้นลง) โดยคราวนี้ต้องเขียนให้หนาและใหญ่ ตอนแรกเราก็ไม่กล้าลงน้ำหนักมาก ทำให้เส้นไม่ใหญ่อย่างที่ควร แต่พอเขียนไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมีความมั่นใจ ออกแรงกดจนเขียนเส้นใหญ่ได้ในที่สุด

เราสังเกตว่าเทคนิคการสอนของครูโบว์แพรวพราวมาก เพราะครูให้เราเขียนเส้นเล็กด้วยพู่กันใหญ่ และเขียนเส้นใหญ่ด้วยพู่กันเล็ก ครูบอกว่าถ้าเราใช้พู่กันเล็กเขียนเส้นเล็ก ยังไงมันก็เล็ก ใช้พู่กันใหญ่เขียนเส้นใหญ่ ยังไงมันก็ใหญ่ แต่ถ้าเราหัดสลับกันแบบนี้ เราจะเขียนแบบที่ยากกว่าได้ แล้วต่อไปจะใช้พู่กันไซส์ไหนก็เขียนได้หมด มันก็จริงนะ เหมือนถ้าหัดขับรถ ก็ต้องหัดเกียร์กระปุกก่อนไง!

พอเราเริ่มจับทางการเขียนเส้นขึ้น-เส้นลงได้แล้ว ครูโบว์ก็ให้เราหัดเขียนเส้น 2 แบบนี้ต่อกันเป็นตัว u เพราะเอกลักษณ์ของอักษรศิลป์อยู่ที่น้ำหนักเส้นที่แตกต่างกันในตัวอักษรเดียวนั่นเอง ตอนแรกเราก็เขียนไม่ค่อยได้ตามเคย แต่เราทำได้เพราะทำตามเทคนิคของครูโบว์ที่ว่า ให้เราโฟกัสที่ปลายพู่กัน เวลาเขียนเส้นใหญ่ ปลายพู่กันจะนาบกับกระดาษเยอะ แต่เวลาเขียนเส้นเล็ก ปลายพู่กันจะนาบกับกระดาษน้อย และอีกเทคนิคคือเราควรวางแขนข้างที่เขียนบนโต๊ะทั้งแขน แล้วเราจะควบคุมน้ำหนักพู่กันได้ง่ายขึ้น

ทุกเวิร์กช็อปของ Sugar & Spice จะมีอาหารดีๆ ให้กินตลอด โดยไอเดียมาจากคุณแอร์ อีกหนึ่งผู้ก่อตั้งคลับ ผู้ชอบไปเวิร์กช็อปงานคราฟต์ตามที่ต่างๆ แล้วพบว่าทำไปก็เครียดบ้างหิวบ้าง ดังนั้นเธอจึงตั้งใจว่าเมื่อจัดเวิร์กช็อปของตัวเอง จะต้องเตรียมอาหารให้ทุกคนกินคลายเครียดและอิ่มหมีพีมันกันถ้วนหน้า ดังนั้นตั้งแต่ก่อนเริ่มคลาสเราเลยได้รองท้องด้วยสารพันคุ้กกี้และเบอร์รี่โซดา พอพักเบรกรอบนี้ก็ได้อิ่มเอมไปกับแซนด์วิชโฮลวีททูน่า สลัดอกไก่ ขนมปังกระเทียม ขนมขาไก่หอมเนย และมะม่วงมันจิ้มพริกเกลือ ซึ่งเราบอกเลยว่าได้ผลจริง เพราะพออาหารเข้าปากเราก็มีแรงใจและแรงกายให้หัดเขียนต่อไป! 

พอพักเสร็จเราก็กลับมาต่อกันด้วยการเขียนตัวอักษร A-Z ซึ่งดูเผินๆ อาจจะเหมือนยาก แต่เราอยากยืนยันว่าง่ายมาก เพราะคุณครูเตรียมแบบตัวอักษรพร้อมแบบลายน้ำสำหรับเขียนตามมาให้เราเรียบร้อยแล้ว นิวบี้อย่างเราแค่เขียนตามลายน้ำก็เป็นอันเสร็จ! แต่ละตัวอักษรก็จะมีความยากง่ายต่างกันออกไป ถ้าใครไม่แน่ใจวิธีเขียนตัวไหน ก็แค่ยกมือ แล้วคุณครูโบว์จะเดินมาเขียนให้ดูถึงที่

เราฝึกเขียนตัวอักษรไปเรื่อยๆ โดยครูโบว์จะเดินมาดูผลงานนักเรียนทีละคน ถ้าผ่านก็จะเปิดไฟเขียวให้ขยับไปด่านถัดไป นั่นคือการออกแบบกล่องกระดาษขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ซึ่งนอกจากเขียนตัวอักษรสวยๆ แล้ว เรายังสามารถวาดรูปอื่นๆ ลงไปได้ตามใจชอบด้วย ระหว่างนี้ครูโบว์ก็จะเดินดูรอบคลาสและสอนเทคนิคการระบายสีน้ำให้นักเรียนแต่ละคน เช่น ให้ลงสีเข้มก่อนสีอ่อน หรือให้ใช้ทิชชู่ซับจุดที่ลงสีเกิน เป็นต้น พอวาดเสร็จก็แค่รอให้สีแห้ง จากนั้นทีมงาน Sugar & Spice จะจัดการนำกล่องไปประกอบให้เรา ส่วนเราก็นั่งกินขนมต่อสิจะรออะไร!

After
 
เพื่อนร่วมคลาสเรามีหลายแบบปะปนกันไป ไม่ว่าจะเป็นเหล่านิวบี้ คนที่เคยวาดรูปสีน้ำมาก่อน และคนที่เคยเขียนอักษรศิลป์ด้วยอุปกรณ์อื่นมาก่อน ฉะนั้นแต่ละคนจึงหัดเขียนแต่ละขั้นตอนด้วยความเร็วไม่เท่ากัน อยากบอกว่าเราเป็นหนึ่งในคนที่รั้งท้าย แต่ครูก็ไม่ได้มาเร่งให้เรารีบทำเลยแม้แต่น้อย แต่สุดท้ายนิวบี้สุดเอ๋ออย่างเราก็สามารถเขียนอักษรศิลป์ได้แล้วหลังจากนั่งเรียนแค่ 4 ชั่วโมง! ต่อให้เป็นอักษรศิลป์ที่ยังไม่สวยเป๊ะเท่าไหร่ แต่แค่พอเขียนได้เราก็ภูมิใจในตัวเองมากๆ แล้วล่ะ!

ก่อนจากกันครูโบว์เดินมากำชับว่าต้องกลับบ้านไปฝึกเขียนต่อนะ แถมช่วยแนะนำเรื่องสีน้ำและกระดาษที่ควรซื้อสำหรับมือใหม่อย่างเราด้วย ครูบอกว่าลงทุนซื้อแค่สีจำเป็นอย่างแม่สี แดง เหลือง น้ำเงิน มาฝึกเขียนก่อน หรือจะซื้อสีที่ผสมยาก เช่น ม่วง น้ำตาล มาใช้ด้วยก็ได้ ส่วนกระดาษต้องมีความหนาอย่างน้อย 160 แกรมขึ้นไป และควรเลือกกระดาษผิวขรุขระสำหรับการลงสีน้ำโดยเฉพาะ เพราะว่าจะอุ้มเนื้อสีได้ดี

แต่ยังไม่ทันได้คิดว่าจะไปซื้อ ทีมงาน Sugar & Spice ก็เอากล่องที่ประกอบเสร็จแล้วมาคืน พร้อมใส่สีน้ำมาให้ 2 หลอดเพื่อเป็นกำลังใจให้มือใหม่ได้กลับไปฝึกเขียนต่อ ถ้าถามเราว่า 3,200 บาทสำหรับคอร์สนี้คุ้มมั้ย เราตอบได้ว่าคุ้มค่าทีเดียวสำหรับการมาลองฝึกเพื่อเป็นพื้นฐาน แต่ไม่จำเป็นถึงกับต้องเข้าร่วมทุกครั้งไป ใครสนใจอยากต่อยอดทักษะอักษรศิลป์จากเวิร์กช็อปครั้งนี้ เราเชื่อว่าการฝึกฝนด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอก็เพียงพอแล้ว ถ้าใครตั้งใจจริงต้องทำได้แน่นอน :-)


Class Details:
- คลาส Brush Calligraphy
- เวลา 13:00-17:00 น.
- ค่าสมัคร คนละ 3,200 บาท
 
 
ศิลปินสาวสุดเท่ผู้เริ่มต้นจากการรับเขียนอักษรศิลป์ลงบนการ์ดและบัตรเชิญเนื่องในโอกาสต่างๆ ก่อนจะขยับขยายมาถ่ายทอดวิชาและจุดประกายให้คนอื่นๆ ได้หลงรักศาสตร์แห่งการเขียนไปพร้อมกันกับเธอ
 
คลับสำหรับคนรักงานคราฟต์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์แต่มาแรงสุดๆ ด้วยหลากหลายเวิร์กช็อปกุ๊กกิ๊กน่ารัก ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช็อป Flower Box จัดดอกไม้ใส่กล่อง Floral Crown เวิร์กช็อปทำมงกุฏดอกไม้ และล่าสุดกับเวิร์กช็อป Brush Calligraphy อักษรศิลป์จากปลายพู่กัน ความโดดเด่นของ Sugar & Spice Club คือการเปลี่ยนสถานที่เรียนไปเรื่อยๆ และการเซ็ตบรรยากาศให้เข้ากับแต่ละเวิร์กช็อป ที่สำคัญมีอาหารว่างอร่อยๆ ให้อิ่มหนำสำราญกันในทุกเวิร์กช็อปเลย ถ้าใครสนใจก็กดไลก์เพจไว้ก่อนเลยจะได้ไม่พลาดเวลามีกิจกรรมใหม่ๆ
 
Soimilk Pick! วันที่ 3 ก.ค. เวลา 13.00-17.00 น. Sugar & Spice Club และ Impression Flower Shop เชิญชวนนิวบี้หัวใจกุ๊กกิ๊กไปฝึกจัดหรีดดอกไม้ (Flower Wreath) ท่ามกลางบรรยากาศฟาร์มสุดชิล ณ ร้าน Artwins ค่าสมัคร 2,700 บาท รวมอุปกรณ์และอาหาร ซึ่งเราเชื่อว่าต้องอิ่มอร่อยจัดเต็มแน่นอน รอบนี้ทางคลับขอเอาใจคนที่ไม่เคยสมัครทันด้วยการเปิดรับฟาร์มเกิร์ลและฟาร์มบอยจำนวน 30 คนด้วยกัน แต่เราก็ยังอยากเตือนเหมือนเดิมว่าต้องเร็วนะ!
 
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมหรือสมัครเวิร์กช็อป โทร. 086-764-2253, 089-664-6778 Line ID: robinhoody หรือ clubsugarspice@gmail.com

ครั้งต่อไปเราจะพาไปทดลองเวิร์กช็อปอะไรใหม่ๆ อีก อย่าลืมติดตามนะ! 

 

soimilk adsoimilk ad