รถมันติดจนเป็นเรื่องปกติไปแล้วในกรุงเทพฯ แต่มันติดเกินปกติรึเปล่าเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ทั่วโลก
ตามที่เวบไซต์ CNN Money ได้รายงานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จากผลการสำรวจที่ TomTom ผู้ผลิตเครื่อง GPS ทำการติดตามความหนาแน่นของจราจรใน 390 เมืองทั่วโลกในปี 2016 พบว่ากรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยมีปัญหารถติดขัดมากที่สุดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนโดยเฉพาะเวลาหลังเลิกงาน
โดยในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนผู้ใช้รถใช้ถนนในกทม.ต้องใช้เวลามากกว่าช่วงรถไม่ติดถึง 91% ในตอนเช้าและ 118% หรือมากกว่าสองเท่าในตอนเย็น นั่นหมายความว่าใครที่เดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวต้องใช้เวลาบนท้องถนนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 64 นาทีต่อวันหรือ 244 ชั่วโมงต่อปี (คิดเฉพาะวันทำงานจันทร์-ศุกร์)
ถึงแม้ Mexico City จะมีสถิติที่แย่กว่าในช่วงเวลาปกติและชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้า เมื่อดูแค่ชั่วโมงเร่งด่วนทั้งก่อนและหลังเข้างานกรุงเทพฯ ของเรากลับแซงไปครองแชมป์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
ด้าน Nick Cohn ผู้เชียวชาญด้านจราจรของ TomTom ยังบอกกับ CNN Money ต่อไปอีกว่าสาเหตุของรถติดนี้เกิดจากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและประชากรที่ทำให้จำนวนรถและผู้เดินทางมากขึ้นเป็นลำดับ สอดคล้องกับจำนวนรถจดทะเบียนใหม่ที่มากขึ้นในปี 2016 ตามสถิติกของกรมขนส่งทางบก โดยมีรถจดทะเบียนใหม่ทั้งหมด 2.79 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 4.02% จากปี 2015

นอกจากนี้ข้อมูลจาก TomTom ยังยืนยันสิ่งที่คนกรุงเทพฯ ทุกคนรู้ดีว่าการจราจรของเมืองเราจะพีคหรือวิกฤติที่สุดในเช้าวันจันทร์และเย็นวันศุกร์ ในรายงานยังบอกด้วยว่าวันที่รถติดที่สุดของปีที่แล้วคือวันพฤหัสที่ 11 สิงหาคม 2559 ใครจำได้มั้ยว่าอะไรเกิดขึ้นวันนั้น?
รอลุ้นกันต่อไปว่าปีหน้ากรุงเทพฯ จะรักษาแชมป์ไว้ได้หรือไม่ แต่ดูจากการทุบซ่อมสะพานหลายแยกและแผนยกเลิก BRT เร็วๆ นี้ คงเป็นเรื่องยากที่เมืองอื่นๆ จะแซงเราขึ้นไปได้เร็วๆ นี้
ข้อมูลเพิ่มเติม: TomTom www.tomtom.com/en_gb/trafficindex/city/bangkok