ถนนตรอกซอกซอยรอบย่านเยาวราชทุกวันนี้เขามีลูกเล่นมากมายมาขายชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนรุ่นใหม่นำความโมเดิร์นพร้อมความครีเอทีฟเข้ามาผสานกับของดั้งเดิมที่เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นในครอบครัวและชุมชน ประวัติศาสตร์และรากเหง้าในอดีตที่ได้รับการปัดฝุ่นใหม่ได้ช่วยเสริมมนต์ขลังดึงดูดความสนใจจากคนนอกพื้นที่ ทั้งยังเปิดมุมมองใหม่ให้คนในพื้นที่เห็นคุณค่าในของเก่าที่อาจหลงลืมหรือละเลยมานาน
‘บ้านตรอกถั่วงอก’ อาคาร 5 ชั้นที่ตั้งตระหง่านผ่านร้อนผ่านหนาวบนถนนสันติภาพยาวนานเกือบ 100 ปีคือหนึ่งในนั้น การอนุรักษ์สถานที่ในความทรงจำของครอบครัวให้คงอยู่ตลอดไปนั้นไม่ใช่แค่เพียงการรีโนเวทตึกและร่วมงานกับทีม Vernadoc ในการบันทึกรายละเอียดสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในก่อนปรับปรุงเพื่อเก็บเป็นข้อมูลไม่ให้สูญหายไปเท่านั้น แต่คือการพัฒนาพื้นที่ของแต่ละชั้นให้กลายเป็น creative startup ที่ดีต่อใจของทุกคนด้วย
ทีมงานบ้านตรอกถั่วงอกได้คัดสรรผลงานที่เปี่ยมไปด้วยไอเดียสดใหม่ แพชชันอันร้อนแรง และความกล้าในการสร้างความเปลี่ยนแปลงของคนในแวดวงงานสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่น ศิลปิน นักออกแบบ และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มานำเสนอผ่าน pop-up event คูลๆ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามธีมในแต่ละช่วงเวลา ภายใต้ชื่อซีรีส์ ‘Baan Trok Presents’ เรียกได้ว่าส่งเสริมกันและกัน ทั้งนักสร้างสรรค์ที่ได้ปลดปล่อยพลังไฟแรงของตัวเอง ตัวบ้านตรอกถั่วงอกให้กลับมาคึกคักและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง รวมถึงผู้เข้าชมที่จะได้รับทั้งความตื่นตาตื่นใจ ความสนุกสนาน พร้อมความรู้และแรงบันดาลใจจากกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งตรงตามวัตถุประสงค์ตั้งต้นของบ้านตรอกถั่วงอก
งานแรกที่จัดอยู่ในขณะนี้คือ ‘Baan Trok Presents: Sprout’ รวบรวมความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบต่างๆ ของคลื่นลูกใหม่แห่งวงการสร้างสรรค์ไทยที่มีผลงานโดดเด่นน่าจับตามอง โดยชั้นแรกเป็นพื้นที่ปล่อยของของแบรนด์เสื้อผ้า สินค้าไลฟ์สไตล์ อาหารและเครื่องดื่ม เช่น TEEMA RUCKSAJIT, Vibes Lab Parfums และ GOOD CHĀ ต่อด้วยชั้น 2 ที่ให้ผู้เยี่ยมชมได้ปล่อยใจเพลินไปกับ AfterTaste นิทรรศการศิลปะของ PaKa ส่วนชั้น 3 พบกับ Vernadoc ที่เปิดโอกาสให้เรียนรู้วิธีการทำงานของทีมงานได้แบบสดๆ และสำรวจรายละเอียดต่างๆ ของบ้านตรอกถั่วงอกผ่านภาพร่าง ยิ่งไปกว่านั้น ในวันเสาร์ที่ 11 มีนาคมนี้ เราสามารถเข้าร่วมฟังเสวนาและพูดคุยกับอาสาสมัครเกี่ยวกับการเก็บบันทึกความทรงจำ พร้อมเดินชมตึกโบราณแห่งนี้ได้แบบเจาะลึก ปิดท้ายด้วยชั้น 4 ที่รวบรวมแบรนด์งานคราฟต์และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นน่าสนใจมากมาย เช่น MERANDI, sasi knits และ Seire Collective
บอกได้เลยว่าไปตึกเดียวคุ้มมากๆ เพราะสามารถเอ็นจอยกับกิจกรรมได้ตั้งหลายอย่างในคราวเดียว เปิดโลกแถมจุดประกายไอเดียใหม่ๆ ให้เราได้ไปเล่าต่อ ต่อยอด หรือผลักดันเป็นพลังในงานของตัวเองอีกต่างหาก แต่ต้องรีบกันหน่อยนะ เพราะงานเซ็ตนี้เขาจัดถึงวันที่ 31 มีนาคมเท่านั้น อยู่ยาวๆ ได้ตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็นเลย (ยกเว้นวันจันทร์และอังคาร
