สำหรับคนที่ตามไม่ทัน บรรยากาศมาคุหมายถึงบรรยากาศที่ชวนอึดอัด โดยแสลงนี้มีที่มาจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ‘ตำรวจอวกาศเกียบัน’ ซึ่งฮอตฮิตมากเมื่อหลายสิบปีก่อน เมื่อใดก็ตามที่ต่อสู้กัน เจ้าวายร้ายมักจะดึงพระเอกเข้าไปอยู่ในโลกมาคุ ทำให้พระเอกตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะอยู่ในโลกนั้นทีไร พระเอกจะรู้สึกอึดอัดกระสับกระส่ายทุกที


ช่วงปีที่ผ่านมา ยุรีก็ถูกดึงเข้าไปในบรรยากาศมาคุบ่อยๆ เธอได้รับแต่ข่าวคราวการสูญเสีย อีกทั้งสถานการณ์ทั้งในและนอกประเทศก็ตึงเครียด แถมตัวเธอเองก็เจ็บป่วยออดแอด แต่แทนที่เธอจะปล่อยตัวดำดิ่งไปกับความรู้สึกแง่ลบ ยุรีตัดสินใจพลิกวิกฤติเป็นโอกาส และดึงความมาคุที่เธอสัมผัสมาสร้างสรรค์ผลงานเสียเลย ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา หลายๆ คนอาจจะเห็นเธอขยันสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหญ่ยักษ์นี้เมือผ่าน 100 Tonson หนึ่งในแกลเลอรี่ชั้นนำในกรุงเทพฯ

อย่างกำแพงด้านแรกที่เห็นเป็นกุ้งกับปูหน้าตาน่ารักน่าชัง ความจริงแล้วเป็นแผนภูมิภาพแสดงเมนูอาหารที่ยุรีกินไม่ได้ทั้งนั้น
“เราเคยเกือบตาย 2 ครั้ง เพราะแพ้อาหาร ก็จะมีทั้งแพ้แฝง แพ้จริง” เธอเล่า “แพ้แฝงคือกินได้ แต่กินแล้วจะทำให้เราไม่แข็งแรง อย่างถั่วเราก็กินได้ แต่ต้องเว้นระยะหน่อย เช่น สองอาทิตย์ครั้ง หรือเดือนละครั้ง แต่อย่างกุ้งนี่กินแล้วหายใจไม่ออกตายได้เลย”

ในกำแพงถัดไป ยุรีเริ่มก้าวเข้าออกจากความอึดอัดส่วนตัว และก้าวเข้าสู่ความกลัวอันเป็นส่วนรวมด้วยบรรดาสัตว์ดุร้ายและสัตว์มีพิษน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น งู หมี ฉลาม กบพิษ เสือ ช้าง และอื่นๆ อีกมากมาย
“เรากลัวงูมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะว่าบ้านที่อยู่มีทุ่ง งูจะชอบโผล่มาในรั้ว หรือตอนซ่อมบ้านก็มีงูเหลือมอยู่ในท่อ แล้วเราก็ไปเสิร์ชดูว่ามีสัตว์อื่นอีกไหมที่มนุษย์กลัว สัตว์ที่ทำร้ายเราได้ อย่างที่เราเอามาวาดก็คือ 10 อันดับสัตว์ที่อันตรายที่สุด”
เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่กลัวงูมาก แค่มองรูปภาพยังไม่กล้า แต่ถ้าให้สบตากับเจ้า King Cobra ของยุรีก็พอไหวอยู่ เราอดสงสัยไม่ได้ว่า ระหว่างรีเสิร์ชรูปงูทั้งหลายแหล่เพื่อใช้วาดรูป ศิลปินสาวมองหน้าเจ้าสัตว์เลื้อยคลานประเภทนี้จนหายกลัวแล้วหรือยัง
“งูจริงๆ ก็ยังกลัวอยู่ดีนั่นแหละ” เธอยอมรับ “แต่เราคิดเสมอว่าคนชอบเอาสัตว์ดุๆ มาวาดให้น่ารัก อย่างหมีขาวที่ดุมาก หรือช้างดัมโบ้ที่เห็นมาตั้งแต่เด็ก ความจริงแล้วก็เป็นสัตว์ป่าที่น่ากลัว”

เราขอไม่สปอยล์ด้วยการบรรยายสัตว์ทุกตัวบนกำแพงนี้ (ไปดูเองจะเข้าถึงอารมณ์ได้มากกว่า เชื่อสิ!) ข้ามไปกำแพงถัดไปซึ่งเต็มไปด้วยเงือกสาวผู้กำลังเริงร่าท้าแดดอยู่กลางทะเลกันดีกว่า ถ้ามองเผินๆ โลกสุดแฟนซีที่มีสิ่งมีชีวิตวิเศษคงน่าอยู่ แต่ถ้ามองดีๆ เราจะเห็นว่ามีสิ่งแปลกปลอมเต็มไปหมดเลยนี่นา!
“คนมักจะนึกถึงเงือกสวยๆ แบบใน Little Mermaid แต่เรานึกถึงคำว่า ‘หน้าเงือก’ ที่แปลว่าหน้าตาแย่ และคำว่า ‘เงือก’ ที่เป็นแสลงหมายถึงความเบื่อหน่าย เราก็เลยวาดเป็นดินแดนที่มีแต่เงือก และวาดให้อยู่กับทะเลที่มีทั้งขยะ ถังแก๊ส ถุงดำ กระป๋อง สิ่งที่มนุษย์ชอบทิ้งไว้ให้โลก”

พอพูดถึงประเด็นสิ่งแวดล้อม ยุรีจึงนึกถึงปัญหาภัยพิบัติด้วย มีอยู่วันหนึ่งเธอได้ดูคลิปเหตุการณ์น้ำท่วมในประเทศญี่ปุ่น ภาพคนที่นั่งอยู่บนหลังคาและบ้านเรือนที่ไหลตามแรงน้ำสะเทือนใจมากจนเธออุทิศพื้นที่ส่วนหนึ่งของกำแพงให้กับมัน นอกจากนี้ประเด็นเรื่องผู้อพยพชาวโรฮิงญาก็กระทบใจยุรีมากเช่นกัน เธอจึงนำเรื่องนี้มาวาดผสมผสานกับเรือโนอาห์ในพระคัมภีร์ของคริสตศาสนา
“เรามองว่าทั้งสองอย่างมองหาฝั่ง เรือโนอาห์หาแผ่นดินใหม่ ผู้อพยพที่ถูกผลักไสออกมาก็เหมือนกัน แต่พวกเขาขึ้นฝั่งไม่ได้ ในพระคัมภีร์ สัตว์บนเรือต้องมาเป็นคู่ เราเลยวาดคู่ผีชายหญิงอยู่ด้วยกัน”

ท้ายสุดยุรีวาดรถถัง ระเบิด และเครื่องบินที่กำลังดิ่งพื้นเพื่อสื่อถึงข่าวร้ายทั้งในไทยและรอบโลกในช่วงปีที่ผ่านมา เราอดถามเธอไม่ได้ว่าเมื่อได้ถ่ายทอดบรรยากาศมาคุทั้งหมดทั้งมวลออกมาเป็นงานศิลปะแล้ว เธอรู้สึกดีขึ้นหรือไม่

และนั่นคือที่มาของ ‘Atmosfear บรรยากาศมาคุ’ ที่เราดูแล้วอมยิ้มมากกว่าจะรู้สึกอึดอัด เหมือนได้ผ่อนคลายจากอารมณ์ตึงเครียดจากงาน จากสังคม จากโลก ทุกสิ่งที่ยุรีวาดเป็นประสบการณ์ร่วมที่ใครๆ ก็เคยสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นโรคเดียวกัน ความกลัวเดียวกัน ข่าวร้ายเดียวกัน เราจึงรู้สึกว่างานของเธอเข้าถึงและจับต้องได้มากๆ
“ถ้ามาดูแล้วชอบ สนุก อารมณ์ดี ก็พอแล้วล่ะ” ยุรีทิ้งท้าย
Atmosfear บรรยากาศมาคุ เปิดนิทรรศการวันที่ 23 มิ.ย. เวลา 19.00 น. และจะจัดแสดงถึงวันที่ 27 พ.ย. ถ้าใครว่างเราก็อยากชวนไปงานเปิด เพราะจะได้เลือกซื้อของที่ระลึกสุดกุ๊กกิ๊กจากยุรีก่อนใคร แถมได้ชมสารคดีแสดงขั้นตอนการทำงานของเธอด้วย
100 Tonson Gallery 100 ซอยต้นสน โทร. 02-010-5813 BTS ชิดลม เวลาทำการ พฤหัส-อาทิตย์ 11:00-19:00 น.
ครั้งหน้าเราจะชวนไปนิทรรศการอะไร อย่าลืมติดตามนะ :-)