ถ้าจะให้พูดถึงประเทศสิงคโปร์ (ที่เราคิดถึงมากกกก และเวลานี้กลับไปเที่ยวกันได้สักทีแล้ว) ส่วนใหญ่ก็จะคิดถึงวิวพาโนรามาของ Marina Bay Sands มุมสุดฮิตของเกาะ สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมหลากหลายแนวบนเกาะเซนโตซา หรือถนนสำหรับขาชอปอย่าง Orchard ที่ไปกี่ทีก็ต้องแวะ สิงคโปร์ก็เป็นประเทศอย่างที่เราคุ้นเคยนั่นแหละ แต่จริง ๆ แล้วประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ก่อให้เกิดเป็นย่านต่าง ๆ อันสุดคึกคัก และแต่ละย่านนั้นก็มีประวัติศาสตร์และเสน่ห์ในแบบของตัวเอง จนทำให้เราอยากไปเยือนสิงคโปร์อยู่บ่อย ๆ
ตั้งแต่ร้านรวงหลากชนิด ร้านอาหารหลายเชื้อชาติ หรือบาร์ดี ๆ ให้นั่งชิลล์ (ขอบอกว่าสิงคโปร์นี่แหละ เพชรเม็ดงามของสายชิลล์ใกล้บ้านเรา!) ล้วนมีประวัติความเป็นมามากมายที่ทำให้เรารู้ลึกไปถึงจิตวิญญาณและรากเหง้าของประเทศนี้ได้เลย
แต่เดี๋ยวก่อน! สำหรับใครที่เริ่มเคลิ้มแล้วอยากเก็บกระเป๋าบินไปเที่ยวสิงคโปร์เสียตั้งแต่ตอนนี้ เราขอแนะนำให้จองที่พักบน www.agoda.com/singaporeimagine2 กันก่อน เพราะเรามีโค้ดส่วนลดคุ้มเวอร์สำหรับชาว Soimilk มาให้ด้วยนะ! เพียงกรอก VISITSG8 ก็รับสิทธิ์การจองที่พักในราคาพิเศษ จะไปลองนอนในตึกแถวสไตล์บูทีค หรือพักแบบเริ่ด ๆ ที่โรงแรมริมทะเล ขอบอกว่าไม่ว่าจะต้องการแบบไหน จองผ่าน Agoda คุ้มกว่าจริง ๆ จ้า
มาถึงจุดนี้แล้ว เราก็ไม่พลาดที่จะหยิบย่านที่น่าไปมาแนะนำกัน แล้วคราวนี้ทริปสิงคโปร์ของเราจะต้องเริ่ดกว่าใคร! ปังมากแม่!
Joo Chiat / Katong
หลายคนอาจคุ้นชื่อ แต่ก็อาจยังไม่คุ้นเคยเท่าไหร่ ที่นี่คือย่านมรดกแห่งแรกของสิงคโปร์อันโดดเด่นด้วยเรื่องราวของชาวเปอรานากัน ที่ผสมผสานระหว่างจารีตดั้งเดิมและความทันสมัยในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ขอบอกว่าย่านนี้เดินเล่นสนุกเวอร์ โดยเฉพาะใครที่รักสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม แค่เดินดูบ้านเมืองย่านนี้ แล้วแชะรูปเอาไปลงอินสตาแกรม รับรองว่ายังไงไลก์ก็พุ่ง! ส่วนสายชอป ย่านนี้ก็มีเสื้อผ้าและของแต่งบ้านเก๋ ๆ ตามร้านค้าอิสระมากมาย
สายกินนี่เด็ดกว่า เพราะมาย่านเดียว ครบเครื่องทุกออปชั่นตั้งแต่สตรีทฟู้ดง่าย ๆ ไปจนถึงอาหารแคริบเบียน อาหารเวียดนาม อาหารฝรั่งเศส หรืออาหารท้องถิ่นอย่างอาหาร Nyonya (ย่าหยา) ก็มี ถ้าอยู่ถึงค่ำ ก็หาบาร์ไวน์ดี ๆ นั่งชิลล์ ๆ ได้เหมือนกัน อยู่ได้ทั้งวันแหละย่านนี้!
พิพิธภัณฑ์เปอรานากัน
สถานที่แรกที่เราอยากแนะนำให้แวะในย่านนี้เลย เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการอนุรักษ์และดูแลในสภาพเดิมเอาไว้อย่างดี ภายในเต็มไปด้วยมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น และสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวในสมัยก่อนของย่าน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของบ้านโบราณ 2-3 หลังที่เปรียบดั่งพิพิธภัณฑ์ที่ส่งมาจากอดีต สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวเปอรานากันได้ผ่านสิ่งของที่หลงเหลืออยู่อย่างเครื่องถ้วยชาม เครื่องเพชรพลอย รองเท้าแตะลูกปัด เครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ รูปถ่าย และอื่น ๆ อีกมากมาย
หาดสวรรค์ที่สวนชายฝั่งตะวันออก
ไม่ได้โม้! เพราะ East Coast Park คือสวนสวรรค์ที่เราชอบมาก ๆ และแวะเวียนไปบ่อย ๆ เพราะเดินจาก Joo Chiat เพียง 25 นาทีก็ถึง ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่มีชายหาดทอดยาวถึง 15 กิโลเมตร ให้เราได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เยอะแยะ ฝั่งสวนก็สามารถเดินเล่น ปั่นจักรยาน สเก็ตบอร์ด หรือโรลเลอร์เบลดก็ได้ ฝั่งทะเลก็นั่งปิกนิกชิลล์ ๆ ริมหาด หรือลุยกีฬาทางน้ำกันไปเลย แถมยังมีคาเฟ่มากมายแถว Parkland Green, Marine Cove, Coastal PlayGrove และร้านอาหารฝั่งตะวันออกก็มีให้ฝากท้องเหมือนกัน
Tiong Bahru
ไปย่าน Tiong Bahru ต้องดู Art Deco! เพราะที่นี่เป็นแก่นของวัฒนธรรมร่วมสมัยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ถ้าอยากรู้ว่าอดีตของสิงคโปร์หน้าตาเป็นแบบไหน ต้องมาที่ย่านนี้นี่แหละ
จริง ๆ แล้วย่านนี้ถือเป็นย่านสุดฮิปของเมืองนี้ก็ว่าได้เลยนะ เพราะไม่มีใครมาสิงคโปร์แล้วจะไม่แวะ Tiong Bahru หรอก จะมานั่งร้านกาแฟดี ๆ แวะร้านหนังสืออินดี้ ดูสถาปัตยกรรม Art Deco ไปด้วยก็ได้ ย่านนี้เต็มไปด้วยศิลปินท้องถิ่นที่ชื่นชอบวัฒนธรรม ดังนั้นใครที่ชอบงานไอเดีย งานครีเอตที่จับเอาเรื่องราวของสิงคโปร์มาเล่าแบบเจ๋ง ๆ ก็แวะมาอุดหนุนสินค้าของเหล่าศิลปินที่ย่านนี้ได้นะ
เบเกอรี่ดี ๆ กับอาหารที่น่ากินไม่ไหว
มาย่านนี้ ไม่ลองขนมอบและเบียร์คงไม่ได้! โดยเฉพาะขนมปังสุดอร่อยอย่าง Kouign Amann ที่ดูกลม ๆ หน้าตาแปลก ๆ แต่กินแล้วแสงพุ่งออกปาก หรือจะลองแวะร้าน Starter Lab ชิมซาวโดว์สไตล์อเมริกัน หรือร้าน Tiann’s Bakery ก็มีอาหารแบบไม่มีกลูเตนเป็นส่วนประกอบให้ได้ลอง และยืนหนึ่งของย่านนี้เลยคือร้านกาแฟดี ๆ ที่มีให้เลือกแบบตาลาย รับประกันว่าเข้าร้านไหนก็ฟินไปหมดจ้า
สายวรรณกรรมคือไม่มาไม่ได้
อย่างที่บอกว่าย่านนี้มีร้านหนังสือเยอะอยู่ แถมแต่ละร้านก็คัดหนังสือไม่คุ้นปก แต่น่าอ่านสุด ๆ มาให้เราได้ลองพลิกดู อย่างร้าน The French Bookshop ก็มีหนังสือภาษาฝรั่งเศสใหม่ ๆ ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัยให้ได้หาอ่านกัน อย่างหนังสือภาพเด็ด ๆ ที่ชื่อ Woods in the Books ก็หาได้ที่นี่ หรือผลงานของนักวาดชาวฝรั่งเศสอย่าง Jean-Jacques Sempe และหนังสือดีในยุค 80’s ของมาเลเซียอย่าง Lat ก็มีเช่นกัน
Art Gallery
ถ้านี่คือเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ทางด้านศิลปะ แล้วจะไม่มีแกลอรี หรือสตูดิโอดี ๆ ได้อย่างไร เราขอแนะนำให้ลองแวะไป Degiosart Gallery และ Art Blue Studio ที่มีทั้งงานภาพวินเทจ งานศิลปะ โบราณวัตถุ และงานศิลปะสมัยใหม่ หรือเยี่ยมชม Grey Projects พื้นที่ศิลปะที่สร้างขึ้นสำหรับผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ในการมีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนความคิดกับผู้คนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี บอกเลยว่าเผื่อเวลาแวะเยอะ ๆ สำหรับย่านนี้นะ
Little India และ Jalan Besar
พาไปย่านฝั่งตะวันออกแล้ว ขอพาไปฝั่งเหนือบ้าง ฝั่งนี้จะมีกลุ่ม Kampung Glam ที่เป็นกลุ่มวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาและมีสีสันอาศัยอยู่ อย่างย่าน Little India นี่ก็มีชีวิตชีวามาก ๆ (และคนไทยอย่างเราก็ชอบไป!) ย่านนี้จะมีตรอกซอกซอยให้เดินเยอะแยะไปหมด แถมยังเต็มไปด้วยร้านขายเครื่องเทศ ร้านขายดอกไม้ วัดเก่าแก่ สตรีทอาร์ตร่วมสมัย และร้านอาหารที่มีให้เลือกจนตาลาย ใครชอบความหลากหลาย น่าจะเอนจอยสุด ๆ
ขอบอกว่าเดินย่านนี้ต้องให้เวลาเยอะ ๆ เลย เพราะย่านนี้มีจุดล้ำค่าทางมรดกวัฒนธรรมถึง 18 ที่ และมีสถานที่มรดกอีกกว่า 40 แห่งเลยนะ
ย่านเดียวที่ได้ลองอาหารหลากหลาย
อย่าคิดว่ามาย่านนี้แล้วจะเจอแค่อาหารอินเดีย เปล่าเลย ด้วยความหลากหลายของชาติพันธุ์ที่นี่มีให้ทุกอย่างตั้งแต่อาหารฝรั่งเศส ทาปาส และติ่มซำสไตล์ฮ่องกง ไปจนถึงร้านอาหารอินเดียทั้งดั้งเดิมและแบบป๊อป ๆ ก็มีให้ลอง
แหล่งวัด เอ๊ย วัฒนธรรม
แวะไปดูวิลล่า “จีน” หลังสุดท้ายที่เหลืออยู่ใน Little India อย่างบ้าน Tan Teng Niah ที่ยังมีหลังคามุงด้วยไม้ไผ่อยู่เหมือนเมื่อครั้งในอดีตอยู่เลย นอกจากนี้ย่านนี้ยังมีวัดเก่าแก่ให้ไปเสริมสิริมงคลอีกเยอะแยะ เช่น วัดศรีวีระมาคาลิอัมมัน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2398 ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ทางศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ หรือวัดพันแสง หรือที่รู้จักในชื่อวัดศากยะมุนีพุทธคยา ซึ่งมีพระพุทธรูปสูงถึง 15 ฟุตให้เรากราบไหว้กัน
ชอปกันให้ขาลาก!
นอกจากน้ำหอม (ที่ราคาดีเวอร์) แล้ว ย่านนี้ยังชอปสนุกด้วยนะ ทั้งส่าหรีผ้าไหม งานฝีมือและเครื่องประดับเล็ก ๆ นุบนิบ พรม และเครื่องเทศ หรือจะไป “มุสตาฟาเซ็นเตอร์” ห้างสรรพสินค้าที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงที่มีทุกสิ่งที่เราต้องการ (หรือบางทีก็ไม่จำเป็นหรอก...แต่มันซื้อเองเฉยเลย) หรือจะลองไปที่ Jothi Store และ Flower Shop ร้านสีสันสดใสที่ขายมากกว่าดอกไม้และพวงมาลัยสำหรับโอกาสทางศาสนา แต่ยังรวมถึงของที่ระลึก ของกระจุกกระจิก และเครื่องสำอางอินเดียก็มีให้ลองชอปสนุก ๆ เหมือนกัน
Chinatown / Telok Ayer
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งย่านที่ฮอตฮิตในสิงคโปร์ที่ใครก็รู้จัก เพราะไชน่าทาวน์ในสิงคโปร์เต็มไปด้วยกิจกรรมและสถานบันเทิงยามค่ำคืนสุดคึกคัก แวะมาชิมร้านโลคอล บาร์และร้านอาหารสุดฮิปที่ซ่อนอยู่ในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมเก่าในย่านนี้ ย่านสุดเจ๋งบนบล็อกแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ 50 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียและร้านอาหารที่ได้รับมิชลินสตาร์ด้วย!
กิน ดื่ม เที่ยว ย่านเดียวจบ
บอกแล้วว่าย่านนี้มีร้านอาหารเยอะแบบตะโกน คือถ้าอยากลองอาหารโลคอลแบบไม่หวือหวา แต่รสชาติดี ก็มีให้เลือกหลากหลาย หรือถ้าจะหาร้านอาหารฟิวชั่นเก๋ ๆ หรืออาหารแนว Experimental ก็ตามหาไม่ยาก อย่างเราเองชอบเริ่มจากมื้อเช้าแบบคนท้องถิ่นที่ร้าน Tong Ah Eating House ตามด้วยของกินเล่นในตำนานจากร้านแผงลอยที่ได้รับรางวัล Michelin Bib Gourmand ที่ Chinatown Complex Food Center หรือจะไปที่ Amoy Street Food Centre ก็นับเป็นการเริ่มวันได้ดี
ตกดึกปุ๊บ ตาสว่างปั๊บ
ไชน่าทาวน์คือที่ตั้งของ 50 บาร์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชียปี 2022 ถึงสองแห่ง ได้แก่ No Sleep Club และ Sago House ที่บอกเลยว่าต้องแวะ เราอยากให้ลองมากันตั้งแต่หัวค่ำ เริ่มด้วยเครื่องดื่มให้เลือกมากมายและอาหารอร่อย ๆ ที่ Drinks & Co แล้วไปต่อที่ Smith Street Taps ในไชน่าทาวน์คอมเพล็กซ์ ซึ่งมีคราฟต์เบียร์ให้ลองเยอะมากกก พอท้องเริ่มหิวก็เดินไปจัดอาหารเด็ด ๆ อย่างหมี่ฮกเกี้ยน ข้าวมันไก่ และอีกหลายเมนูที่แบบว่า ให้อยู่ถึงเช้าก็ยังไหว!
นี่แค่น้ำจิ้มของเกาะเล็ก ๆ แต่เที่ยวสนุกจริงอะไรจริงที่ชื่อ “สิงคโปร์” เท่านั้นนะ ถึงเวลาต้องหาวันลา แล้วแพ็กกระเป๋า กดเข้าเว็บ Agoda จองที่พักกันล่วงหน้าเลย รับรองว่านี่จะเป็นทริปที่ดีที่สุดของเพื่อน ๆ ในปีนี้อย่างแน่นอน !