รวม 7 Designer Toy จากฝีมือชาวไทยและต่างชาติที่น่ารักน่าสะสม ควรค่าแก่การประดับโต๊ะ

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นของเล่น แต่เรากลับมองว่า Designer Toy นั้นมีคุณค่าในการสะสมเสียมากกว่า นั่นก็เพราะ Designer Toy เป็นสินค้าแฮนด์เมดที่ผลิตจากฝีมือศิลปินหรือนักออกแบบ โดยพวกเขาก็จะสร้างตัวละครแสนน่ารักขึ้นมาในรูปแบบโมเดล การทำทอยแต่ละชิ้นจึงจำเป็นจะต้องพึ่งสกิลการหล่อโมเดลและการเพ้นต์ที่แสนจะประณีต ซึ่งส่วนมากก็จะผลิตในจำนวนที่จำกัด เพียง 1,000 ชิ้น ต่อ 1 รอบ ไม่เกินนี้ ทำให้ทอยของดีไซเนอร์ดัง ๆ จะหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว และมีราคาที่สูงเอาเรื่อง เนื่องจากเป็นงานฝีมือ แต่เมื่อซื้อไปแล้วก็จะเกิดการซื้อขายระหว่างแฟนคลับอีกที โดยมูลค่าของตัวทอยก็จะถูกเคาะสูงขึ้นไปอีกตามความนิยมในหมู่นักสะสม เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากจะก้าวเข้ามาในวงการนี้ ก็จงเตรียมสกิล CF และสำรองเงินเอาไว้ให้ดี เพราะของดีมักไปไวเสมอ  

 

 

 

 

 

ขอเริ่มกันที่เจ้าดังกันก่อนเลย Sticky Monster เป็นทอยจากสตูดิโอออกแบบในกรุงโซลแดนกิมจิ ซึ่งสตูดิโอนี้ก็ไม่ได้ทำแค่ทอยนะ แต่รวมไปถึงงานออกแบบ Graphic, Illustration, Motion Graphic, Animation และ Product Design ซึ่งเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันใน Monster World และแม้ว่าเหล่ามอนสเตอร์จะดูเรียบง่ายและน่ารัก แต่เมื่อมองดูลึก ๆ แล้วเราจะเห็นถึงประเด็นความจริงและความดาร์กที่ทางสตูดิโอแอบใส่เข้ามา และด้วยความโด่งดังของสตูดิโอนี้ ก็ทำให้พวกเขาได้มีโอกาสไปร่วมทำงานกับแบรนด์ต่าง ๆ ตั้งแต่ Nike, Nissan, CJ ไปจนถึงคอลเลคชันล่าสุดที่ทำร่วมกับบอยแบนด์ชื่อดังอย่าง BTS ใครกำลังอยากซื้อมาประดับโต๊ะให้ชื่นใจ ก็มีเพจ Stickymonsterlab.thailand เขารับพรีออเดอร์อยู่นะตอนนี้

 

 

 

แม้ Designer Toy จะกำลังฮิตในโซนเอเชียตะวันออกอย่างจีน เกาหลี และไต้หวัน แต่ที่ไทยเราก็มี Toy Designer เหมือนกันนะ Ngaew Ngaew (อ่านว่า แง้ว แง้ว) เป็นแบรนด์จากดีไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่ไฟแรงที่ออกแบบคาแรกเตอร์มาถึง 3 ตัว คือแง้วกระต่าย, งุ้ยหมาป่า และเงี้ยวไดโนเสาร์ ซึ่งเอกลักษณ์ก็จะอยู่ที่ความอ้วนตัวกลมของทั้ง 3 ที่น่ารักน่าซื้อเป็นที่สุด อย่างปลายเดือนตุลาคมที่เป็นเทศกาล Halloween เธอก็เพิ่งทำคอลเลกชันใหม่ออกมา 3 แบบ 3 ตัวครบแก๊งเลย โดยเราก็รับประกันความมาไวไปไวของเจ้านี้ เพราะเราเห็นเขาเปิดพรีออเดอร์วันไหน ก็หมดภายในวันนั้นเลย แถมในหลายปีที่ผ่านมา Ngaew Ngaew ก็ถูกเชิญไปงานทอยของต่างประเทศอยู่หลายครั้งหลายครา ลูกค้าเจ้าประจำของแบรนด์นี้จึงไม่ได้มีแค่คนไทย แต่ต้องฝ่าฟันแย่งชิงร่วมกับแฟน ๆ ต่างชาติด้วย 

 

 

 

หลายคนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาน้องเมฆแก๊งนี้ดี เพราะเป็นทอยชื่อดังจากฮ่องกง โดย Fluffy House คือบ้านที่สร้างสรรค์ตัวละครในคอนเซปต์ Fluffy หรือความฟู ความเบาสบาย และความนุ่ม ตัวละครส่วนมากจึงเป็นน้องเมฆและสัตว์น้อยสัตว์ใหญ่ที่เน้นความน่ารักน่ากอดเป็นหลัก ซึ่งตัวละครหลัก ๆ ของบ้าน Fluffy House ก็จะมีตั้งแต่ Mr. White Cloud, Miss Rainbow, Mr. Grey Cloud, Ordinary Bear และ Sunny โดยถือเป็นอีกแบรนด์ที่มีประสบการณ์ร่วมทำงานกับแบรนด์ชั้นนำมากมายอีกเช่นกัน ตั้งแต่ Nivea, Samsung และ Canon ส่วนการนำเข้ามาขายในประเทศไทยนั้น ตอนนี้ยังไม่มีช่องทางหลัก แต่จะมีกลุ่ม FluffyHouse Thailand กลุ่มซื้อขายของแฟนคลับ ใครสนใจก็เข้าไปส่องกันได้จ้า        

 

 

 

วกกลับมาที่ผลงานดีไซนเนอร์ชาวไทยกันบ้าง Mupa Toy เป็นแบรนด์ของศิลปินนักออกแบบ คุณปาย-เมืองปาย งามแสงรัตน์ ผู้สร้างสรรค์คาแรกเตอร์ Mallow หรือเจ้ามาร์ชเมลโล่ตัวอวบอ้วนที่ถูกมนุษย์รังแกด้วยการนำไปเสียบไม้ย่าง จากมาร์ชเมลโลวตัวขาวจั๊วะ จึงกลายมาเป็นมาร์ชเมลโลวที่อ้าปากร้องตะโกนด้วยความคุ้มคลั่งและความโกรธ นอกจากนี้ยังมีน้อง Mochi หรือ โมจิก้อนกลม คาแรกเตอร์ตัวใหม่ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อปลายปี 2018 ซึ่งทั้ง 2 ตัวก็มีความน่ารักน่าฟัดเอาเรื่อง จนเจ้า Mallow และ Mochi นี้ก็ไปกวาดความนิยมทั้งนักสะสมทอยชาวไทยและต่างชาติจนอยู่หมัด สังเกตได้จากการขึ้น Sold Out ในเวลาอันรวดเร็วทุกครั้งที่ Mupa ครีเอตคอลเลคชันใหม่ออกมา

 

 

 

สำหรับเจ้าคาแรกเตอร์หมีขาว Bac Bac (อ่านว่า แบค แบค) เขาดังในรูปแบบสติกเกอร์ไลน์มาก่อน โดยเป็นผลงานการออกแบบจากดีไซเนอร์ชาวฮ่องกง Darylhochi ซึ่งเขาก็ได้ไปจับมือกับ Toy Zero Plus บริษัทผลิตทอยเจ้าดังของฮ่องกง น้องหมีขาว Bac Bac จึงได้กระโดดออกจากแพลตฟอร์ม 2D สู่ 3D ในคอลเลกชัน Bac Bac Not Just A Sticker โมเดลทอย Vinyl ขนาดจิ๋ว และล่าสุดเขาก็เพิ่งออกเซ็ตน้องหมีเกาะแก้ว BACBAC Halloween Funny Show Cup Edge แม้ตอนนี้ยังไม่มีช่องทางหลักนำมาขาย แต่จะมีกลุ่ม BacBac Thailand กลุ่มซื้อขายของแฟนคลับ เข้าไปเช็คกันได้ เราว่าต้องมีคนรับพรีออเดอร์แน่ ๆ เพราะเซ็ตนี้น่ารักกระชากใจมากเลยจ้า

 

 

 

Avo Friends คือแบรนด์ทอยสัญชาติเกาหลีที่มีตัวละครสังกัดอยู่ 4 ตัวด้วยกันคือ Avo, Banami, Onie และ Appie ทั้ง 4 ตัว กำเนิดมาจากโปรเจ็กต์ส่วนตัวของศิลปินชาวเกาหลี Lee Hyosook โดยเธอได้สร้างเรื่องราวการผจญภัยที่ทั้ง 4 ต้องตามหาต้นกำเนิดอันแท้จริงจากสติกเกอร์ที่ติดอยู่ด้านหลัง และแท้จริงแล้ว Avo มาจากฟาร์มเล็ก ๆ ใน California, Banami คือเจ้าชายที่มาจากเกาะลี้ลับในประเทศ Philippines, Appie คือศิลปินจากกรุงปารีส และ  Onie สุภาพบุรุษแสนอบอุ่นจากทางต้อนใต้ของ Italy แบบนี้ซื้อตัวเดียวโดด ๆ ไม่ได้นะ จะซื้อทีต้องซื้อให้ครบทั้ง 4 ตัว แต่เป็นที่น่าเสียดาย เพราะตอนนี้ยังไม่มีช่องทางหลักมาขายในไทยนี่สิ อยากได้ก็ต้องบินไปซื้อที่เกาหลีแล้วล่ะ  

 

 

เซ็ตนี้เรากรี๊ดมากบอกเลย เพราะเป็นเซ็ตทอยที่ออกแบบคาแรกเตอร์อิงมาจากผลงานศิลปะอย่าง Mona Lisa, Girl With a Pearl Earring, The Scream และ Vincent van Gogh โดยเป็นผลงานจาก Red Capsule Design Studio กลุ่มนักออกแบบชาวจีน ซึ่งพวกเขาก็ได้รับการจุดประกายจากผลงาน The Scream ผลงานชิ้นเอกของ Edvard Munch โดยตั้งใจจะสะท้อนประเด็นความเครียดและความวิตกกังวลในสังคม ที่เกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้คนอยากจะกรีดร้องให้สุดใจ แต่ต้องถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มแกน ๆ ดั่งเช่นทอยในเซ็ตนี้นั่นเอง สำหรับการวางขายในไทย ตอนนี้ก็มีเพจ TOYS HOUSE เขารับพรีออเดอร์ในราคาชุดละ 1,600 บาท อยู่นะ ใครอยากซื้อมาเปย์ตัวเองก็ทักไปสอบถามรายละเอียดกันได้จ้า