1. มูสงาดำกับผักร็อคเก็ต (145 บาท) ที่ Patisserie Potager
เหมาะสำหรับ: สาวรักสุขภาพ ตามเทรนด์คลีนฟู้ด

คาเฟ่ส่งตรงจากญี่ปุ่นแห่งนี้เสิร์ฟขนมที่เน้นการใช้ผักและผลไม้เป็นองค์ประกอบหลัก แถมยังแคลอรี่น้อยด้วยนะ เมนูเด่นมีอยู่หลายอย่าง เช่น กรีนชอร์ตเค้ก (165 บาท) และมูสทิรามิสุดอกกะหล่ำ (175บาท) แต่ที่เราถูกใจที่สุดคือเจ้ามูสงาดำกับผักร็อคเก็ต วัตถุดิบที่ใช้จะเป็นออร์แกนิกทั้งหมด ผสมกับนมถั่วเหลืองสด คาเฟ่ก็บรรยากาศดีมากเลยขอบอก
111/1 ซอยทองหล่อ 5, โทร. 095-962-0324 BTS ทองหล่อ
2. ครัวซองต์ลาวา (120 บาท) ที่ CODE
เหมาะสำหรับ: คนที่เลือกไม่ถูกระหว่างซาลาเปาไส้ไหล และครัวซองต์นุ่มๆ

CODE ย่อมาจาก Cafe of Dessert Enthusiasts ดังนั้นใครที่คลั่งไคล้ขนมหวานต้องไปลองซักครั้งแหละ ที่ร้านมีขนมทั่วไปเช่น น้ำแข็งใส บราวนี่ และบานอฟฟี่พาย เมนูของคาวก็มี แต่เด็ดสุดตอนนี้ต้องยกให้ ครัวซองต์ลาวา มีทั้งไส้ไข่เค็ม ชาไทย และ earl grey อีกเมนูแนะนำที่เป็น signature ของร้าน คือ ลาวาโทสต์ มีทั้งขนมปังถ่าน ทั้งไส้ไข่เค็มหวานมันเยิ้มๆ โปะกับไอศครีมอีกลูก จานเดียวเหมือนได้ทานครบมันทุกอย่างเลย
The Jas รามอินทรา ถนนลาดปลาเค้า โทร. 02-041-0260 เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 11:00-21:00น. เสาร์-อาทิตย์ 10:00-22:00น.
3. ครัวซองต์ชาร์โคล์ (150 บาท) ที่ Amatissimo
เหมาะสำหรับ: คนรักกาแฟและเบเกอรี่
เทรนด์ขนมปังชาร์โคล์มาแรงได้ซักพักละ ส่วนครัวซองต์ลาวาก็มาแรงเช่นกัน ซึ่งเราสามารถทานทั้งสองอย่างได้ในเวลาเดียวกันในเมนูใหม่ล่าสุดนี้ที่ Amatissimo ส่วนตัวเราชอบกาแฟของที่นี่อยู่แล้ว และครัวซองต์ของที่นี่ก็หอมกรุ่นรสชาติดีเช่นกัน สั่งมาทานคู่กันเป็นมื้อเช้าอร่อยๆ แค่นี้เราก็แฮปปี้ไปตลอดวันแล้ว ตอนนี้มีเสิร์ฟทุกสาขาแล้วนะ บ้านใกล้ที่ไหน ตามไปชิมที่นั่นโลด
ซอยศรีนครินทร์ 55, EmQuartier (bts พร้อมพงษ์), ท่ามหาราช โทร. 085-482-9977, 081-898-0070 เวลาทำการ 09:00-18:00น.
4. เครื่องดื่ม “Explosion” (เริ่มต้นที่ 185 บาท) ที่ Once Social Bar & Cafe
เหมาะสำหรับ: นักดื่มมิล์คเชค

อาจจะรู้จัก Once ในฐานะคาเฟ่น้ำแข็งไสในสยามแสควร์ แต่ตอนนี้มาเปิดสาขาใหม่ที่ทองหล่อ มีทั้งเมนูบรันช์ สลัด พาสต้า และเบอร์เกอร์ แต่ไฮไลท์ที่แท้จริงคือเมนูของหวานที่อลังการงานสร้างมาก โดยเฉพาะ Egglette Towers ที่มีทั้งวาฟเฟิลไข่ 3 ชั้น ไอศครีม 4 ลูก และ่ท็อปปิ้งอีกเป็นกอง ส่วน เครื่องดื่ม “Explosion” ของที่นี่ ระเบิดสมชื่อจริงๆ เพราะในหนึ่งแก้วมีทั้งไอศครีม วิปครีม โคนวาฟเฟิล และสายไหม
Once Social Bar & Cafe 308 ซอยทองหล่อ 10 โทร. 084-777-7322 เวลาทำการ ทุกวัน 12:00-21:30น.
5. DIY แพนเค้ก (เริ่มต้นที่ 50บาท) ที่ Slappy Cakes
เหมาะสำหรับ: คนที่อยากย้อนวัยกลับไปเล่นทำขนม

ร้านอาหารเช้าแห่งนี้มีสาขาอยู่ในญี่ปุ่น ฟิลิปปิน สิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่จริงๆแล้วเดิมทีตั้งอยู่ที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน จริงๆแล้วไม่ใช่คาเฟ่ของหวาน แต่เราชอบลูกเล่น DIY แพนเค้กของที่นี่ ซึ่งทางร้านจะเตรียมเตาร้อน และแบทเทอร์แพนเค้กไว้ให้ มีทั้งรสนมเนย ช็อคโกแล็ต และเนยถั่ว หลังจากนั้นเราสามารถเลือกท็อปปิ้งที่เราต้องการ ตั้งแต่ผลไม้ต่าง (50บาท) ชีส และเบค่อน (45 บาท) ช็อคโกแล็ตชิพ วอลนัท อัลมอนด์ (50บาท) รวมถึงซอสราดอีกหลายรสด้วย (45บาท)
1/10-11 ซอยสุขุมวิท 39 โทร. 02-662-4887 เวลาทำการ 7:30-23:00น. BTS พร้อมพงษ์
6. Double Fromage ชีสเค้ก (890 บาท) ที่ Le Tao
เหมาะสำหรับ: คนรักชีส แต่ไม่อินกับนิวยอร์คชีสเค้ก

ชีสเค้กกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในตอนนี้ และชีสเค้กของ Le Tao ส่งตรงจากเมืองโอตารุ ฮอกไกโดก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวท็อปเลย เดิมทีเคยมีแค่ที่ Sushi Hiro แต่ตอนนี้เค้ามีเคาน์เตอร์ 2 สาขาแล้วนะ ส่วนเจ้า double fromage ชิ้นนี้มีเนื้อเนียนเหมือนไอศครีม แต่มาพร้อมกับรสครีมชีสล้วนๆ ราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ทานแล้วฟินน่าดู ล่าสุดนี้ทางร้านเพิ่งเพิ่มรสชาเขียวขึ้นมาเมื่อเดือนที่แล้วเองด้วยนะ
ชั้น G สยามพารากอน 991/1 ถนนพระราม 1 เวลาทำการ ทุกวัน 10:00-22:00น. BTS สยาม (อีกสาขาอยู่ที่ EmQuartier)
7. ชีสเค้ก (100 บาท) ที่ Snaffle’s
เหมาะสำหรับ: คนรักชีสเค้ก แต่กลัวหยุดกินไม่ได้

จะไม่กล่าวถึง Snaffle’s ก็จะดูไม่แฟร์ เจ้านี้ก็มาจากฮอกไกโดเช่นกันนะจะบอกให้ แต่คราวนี้ชีสเค้กนุ่มๆมาในไซส์มินิ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะแคลอรี่เกิน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบรสชีสที่แรงเกิน และที่น่าสนใจคือมีหลายรสชาติอีกด้วยนะ! ทั้งชาเขียว กาแฟ และช็อคโกแลต แต่ส่วนตัวเราว่ารสออริจินัลเจ๋งสุดแล้ว
ชั้น G Emquartier ถนนสุขุมวิท เวลาทำการ ทุกวัน 12:00-22:00น. BTS Phrom Phong (อีกสามสาขาตั้งอยู่ที่ เมกาบางนา เซ็นทรัลเฟสติวัล และบูธชั่วคราวที่ สยามพารากอน)
8. ชูโรส (220 บาท) ที่ Warm Wood Cafe
เหมาะสำหรับ: คนเบื่อปาท่องโก๋น้ำมันเยิ้ม

เรามาเริ่มต้นวันใหม่ด้วยปาท่องโก๋กันเหอะ! อย่าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นปาท่องโก๋ของแม็คโดนัลนะ! จริงๆแล้วชูโรส คือ ปาท่องโก๋สเปน ชิ้นจะยาวกว่าปาท่องโก๋ไทยที่เราคุ้นเคยกัน และWarm Wood Cafe ก็เป็นคาเฟ่ที่บรรยากาศดี และเหมาะไปนั่งทานอาหารเช้ามาก เราเลยอยากแนะนำชูโรสของที่นี่ แป้งเบาฟู แถมไม่มันย่องด้วย แต่สิ่งที่พีคของที่นี่คือการเสิร์ฟคู่กับซอสยูซุ กับช็อคโกแลตดิปที่ไม่เหมือนใคร
137/1 ซอยทองหล่อ 10 โทร. 02-714-9974 เวลาทำการ อังคาร-อาทิตย์ 9:00-01:00น.
9. ชูโรส (เริ่มต้นที่ 65 บาท) ที่ Dolly Churro
เหมาะสำหรับ: แฟนพันธุ์แท้ปาท่องโก๋

ถ้าจะมาแนวนี้แล้วต้องไปให้สุด คาเฟ่น้องใหม่ในโครงการ The Taste ก็นำของอร่อยสไตล์สเปนมาฝากเราเหมือนกัน เนื้อแป้งกรอบนอกนุ่มใน แถมมาในรูปแบบที่หลากหลายกว่าที่เราคุ้นเคย เช่น ช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี่ซันเดย์ และ Churro Banberry หาได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น!
ชั้น G, The Taste ซอยทองหล่อ 11 โทร. 02-712-8413 เวลาทำการ ทุกวัน 11:00-20:00น.
10. Scarlet Toast (280 บาท) ที่ Not Just Another Cup
เหมาะสำหรับ: คนรักอาหารเช้าชิคๆ (และรักการถ่ายรูปอาหาร)

พูดถึงคาเฟ่อาหารเช้าแล้วเราเลยอดนึกถึง Not Just Another Cup ไม่ได้ จริงๆแล้วเราไม่ได้ถูกใจเมนูอื่นๆของที่นี่ขนาดนั้น แต่ดาวเด่นที่เราค่อนข้างประทับใจ (แถมถ่ายรูปส๊วยสวย) คือ สการ์เล็ตโทสต์ ประกอบไปด้วยขนมปังข้าวไรย์ คอทเทจชีสกลิ่นมะนาว เพิ่มสีสันด้วยสตรอว์เบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ เชอร์รี่ และโรยหน้าทิ้งท้ายด้วยน้ำผึ้ง และพิสตาชิโอ เป็นการสร้างสรรค์เมนูใหม่ที่น่าสนใจมาก และคิดว่าเป็นเมนูที่ดีที่สุดของที่นี่แล้วแหละ
75/1 ซอยสาทร 10 โทร. 02-635-3464 เวลาทำการ ทุกวัน 7:00-19:00น. BTS ช่องนนทรี
11. คากิโกริ (260 บาท) ที่ Hiro Keki
เหมาะสำหรับ: แฟนพันธุ์แท้ Sushi Hiro

ถ้าติดตาม @sushihirothailand อยู่เรื่อยๆ เหมือนเรา ก็คงจะเห็นอัพเดทว่าอาณาจักร Sushi Hiro ได้เปิดคาเฟ่ของหวานอย่างเต็มตัวแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในเมนูยอดนิยมในหมู่คนไทย ต้องเป็นน้ำแข็งไสคากิโกริ มีให้เลือกอยู่หลายท็อปปิ้ง แต่ถ้าฟินสุดเราแนะนำให้ลองซัมเมอร์ฟรุ๊ท ประกอบไปด้วยเมล่อน กีวี่ สตรอว์เบอร์รี่ มะม่วง และเสาวรส สดชื่นต้อนรับหน้าร้อนบ้านเราเลย
ชั้น 3 The Crystal Veranda ถนนประดิษฐ์มนูธรรม โทร. 099-350-0075
12. นิลลา (95 บาท) ที่ วันทองคาเฟ่
เหมาะสำหรับ: นักช็อปที่เบื่อไอศครีมมะพร้าวราคาแพงในเจเจ

เห็นโกอินเตอร์มาซะเยอะ ลองหันกลับมาลองขนมไทยบ้านเรากันบ้าง เค้กนิลลาชิ้นนี้คือเค้กมะพร้าวชั้นเลิศ เนื้อเค้กทำมาจาากมะพร้าวผสมชาร์โคล แต่งหน้าด้วยครีมมะพร้าวกลิ่นหอมๆที่ไม่เลี่ยนจนเกินไป และแอบมีส่วนผสมของข้าวไรซ์เบอร์รี่ด้วยนะ เดินช็อปปิ้งมานานก็แวะมาพักเอาแรงกันหน่อย #หมูแข็งแรง
ซอย 1/4 ตลาดนัดจตุจักร โทร. 088-885-7751 เวลาทำการ พุธ-อาทิตย์ 9:00-17:00น. BTS หมอชิต
13. Lady in Red (230 บาท) ที่ Jona Waffle
เหมาะสำหรับ: คนชอบวาฟเฟิลดีๆ ไม่เลี่ยนเกินไป

อาจจะดูไม่ได้สูงอลังการเป็นหอคอยเหมือนที่ Hash Me แต่วาฟเฟิลของ Jona มีการเตรียมแป้งอย่างพิถีพิถัน โดยการพักแป้งยีสต์ไว้ข้ามคืนเพื่อให้ได้เนื้อที่กรอบนอก นุ่มใน จริงๆแล้วสั่งวาฟเฟิลธรรมดา ราดกับเมเปิ้ลไซรัปเราก็ฟินแล้วนะ แต่จะทานนอกบ้านทั้งทีแนะนำให้สั่ง Lady In Red เพิ่มท็อปปิ้งสตอรว์เบอร์รี่และบลูเบอร์รี่สดๆ ราดด้วยโยเกิร์ตน้ำผึ้ง ซอสเบอร์รี่ และโปะด้วยไอศครีมรสสตอร์วเบอร์รี่ไปอีกลูก ไม่เลี่ยนเกิน ทานแล้วสดชื่นมากมาย
ชั้น 2 The Commons ซอยทองหล่อ 17 เวลาทำการ ทุกวัน 12:00-22:00น.
14. Blue Bunny Egg (190 บาท) ที่ Perhaps Rabbits’
เหมาะสำหรับ: คนที่อยากตามอลิสไปอยู่ใน Wonderland

ภายในร้าน Perhaps Rabbit ให้ความรู้สึกเหมือนไปนั่งจิบน้ำชาใน Alice in Wonderland และแน่นอนว่าเมนูของหวานแต่ละอย่างก็ต้องเข้าธีมเช่นกัน ทั้งเลม่อนทาร์ต และเค้กเวลเวท แต่ถ้าอยากต้อนรับเทศกาลอีสเตอร์อย่างมีสไตล์ต้องสั่งจานนี้เลย ด้านในเป็นบลูเบอร์รี่ชีสพาย ครอบด้วยช็อคโกแลตรูปไข่สีม่วงปนชมพู จะให้ครบเซ็ตก็ต้องสั่งเครื่องดื่มสวยๆ มาจิบคู้กันด้วยนะ
ชั้น G Ekkamai Mall เอกมัยซอย 10 โทร. 096-616-3314 เวลาทำการ ทุกวัน 9:00-21:00น.
15. น้ำแข็งไสปลาแห้งแตงโม ที่ Sweet Pista Little Cafe
เหมาะสำหรับ: คนรักเมนูฟิวชั่นตัวจริง

เมนูไทยโบราณอย่างปลาแห้งแตงโม เป็นเมนูต้อนรับหน้าร้อนที่อาจจะไม่ได้หาได้ทั่วไปแล้ว เราจึงประทับใจเมนูน้ำแข็งใสล่าสุดของคาเฟ่น้องใหม่ของ Sweet Pista เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีเมนูน้ำแข็งไสเมล่อนพาร์มาแฮมอีกด้วยนะ ฟู้ดดี้ตัวจริงตามเก็บให้ครบทุกเมนูล่ะ
235/21 ซอยสุขุมวิท 31 โทร. 02-662-2866 เวลาทำการ 11:00-22:00น.
ติดตามอัพเดทล่าสุดได้ทาง facebook นะ :)